ดูแล้ว อยากบอกต่อ “I SAW THE DEVIL,2010 (KOREA) เกมโหด ล่าโหด”
กฎหมายไม่ได้มีไว้ฆ่าคน แต่มีไว้ลงโทษเพื่อให้คนสำนึกผิดแล้วพร้อมจะกลับออกมาเป็นคนดีในสังคม แต่บางครั้งกฏหมายก็ไม่ได้ทำให้ผู้ที่สูญเสียบางสิ่งบางอย่างหายเจ็บปวดหรือลดไฟแค้นลงได้ หลังดูหนังจบของสารภาพอีกครั้งว่าทำเอานอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะความน่ากลัว สยดสยองอะไรใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นปมท้ายเรื่องของหนังที่ทำให้เจ็บปวดในบทสรุปของเรื่อง ขนาดเก็บเอาไปคิดจนนอนไม่หลับทั้งคืน ใครหลายคนคงคิดว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีคงมีแต่หนังรักหวานซึ้ง กระตุ้นต่อมน้ำตาแตกเท่านั้น แต่ I SAW THE DEVIL คือสิ่งที่ต่างออกไปราวกับหน้ามือเป็นหลังเท้า I SAW THE DEVIL เล่าถึงการแก้แค้นของพระเอกที่เป็นตำรวจราชการลับ ต้องสูญเสียภรรยาที่กำลังตั้งท้อง จากการโดนข่มขืนพร้อมฆ่าหั่นศพของฆาตกรต่อเนื่องใจเหี้ยม บทลงโทษทางกฎหมายอาจไม่ใช่สิ่งที่น่าพึงพอใจของเขา มหกรรมการตามล่าล้างแค้นแบบnon-stop ที่ผิดแปลก และไม่ธรรมดาจึงเกิดขึ้น โดยทุกครั้งที่พระเอกของเราจับฆาตกรได้ ก็จะจับมันมาทรมานสนองความแค้นพร้อมยัดเครื่องติดตามขนาดเล็กเข้าปากแล้วปล่อยไป เพื่อตามล่ามาทรมานต่อไปเรื่อยๆ ตามได้อีก ก็กระทืบอีก โดยที่ฆาตกรไม่รู้เลยว่าคนที่ตามล่าเขาคือใคร แต่ประเด็นของหนังคือ… เมื่อการล่าล้างแค้นกลายเป็นเกม ความพยาบาทอาฆาตกลายเป็นเรื่องหอมหวน แล้วใครกันแน่ที่เป็นผู้ถูกล่า!? แม้ทุกครั้งที่ฆาตกรของเราโดนซ้อมแล้วซ้อมอีกจนปางตาย จนแทบจะยืนไม่ได้ แต่ฆาตกรของเราก็หาได้สำนึกไม่ ยังคงตามล่าหาเหยื่อมาข่มขืนเพื่อสนองตัณหาดับความโกรธแค้นของตัวเองอยู่เรื่อยๆ โดยทุกฉาก ฆาตกรรายนี้ ยังแสดงความโหดแบบวิปริตไม่น่าคบสุดๆ ออกมาแบบไม่มีหยุดหย่อน (ไม่ขอเล่าแนะนำให้ไปหาดูเอง) จนกระทั่งหนังขมวดปมมาถึงจุดไคล์แมกซ์ที่ฆาตกรรู้จุดอ่อนของพระเอก ความหายนะบัดซบจึงบังเกิดในบัดดล I SAW THE DEVIL ออกฉายเมื่อ สิงหาคมปี2010 กวาดรางวัลตามเทศกาลหนังมาแล้วนับสิบรางวัลทั้งด้านถ่ายภาพ […]
