12 สถานที่ Around The World อยู่เชียงใหม่ไปได้ทั่วโลก

ในยุคที่กระแสการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของใครหลายคน เพราะเป็นการที่เราได้ออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ หลายท่านจึงตั้งเป้าที่จะออกเดินทางสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่สิ่งสำคัญที่หลายท่านต้องคำนึงถึงคือ เรื่องงบประมาณ แต่วันนี้ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านี้ เพราะอยู่เชียงใหม่ไปได้ทั่วโลก!! มีที่ไหนน่าสนใจ ตามเจ๋งมา

1. Italy – San Pareni Hotel 

พิกัด: ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จากแยกบิ๊กซีหางดง เลี้ยวขวาไปแม่เหียะ 200 เมตร อยู่ซ้ายมือ
เบอร์โทร: 082-1821844 / 053-105557

ตึกสีส้มเด่นสะดุดตาสไตล์ทัสคานี อาคารสีเทาดูแปลกตาคล้ายโบสถ์ หากเห็นสิ่งเหล่านี้ในภาพถ่ายหลายท่านคงนึกว่าคงอยู่ในเมืองทัสคานี (Tuscany) ประเทศอิตาลี แต่เปล่าเลย! สถานที่นี้คือ โรงแรมซานพารินี (San Pareni Hotel) ตั้งอยู่ถนนอำเภอหางดงนี่เอง

เมื่อเดินเข้าไป สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราต้องมนต์คือ ความสวยงามของตัวตึกที่ดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ตึกอินเทอร์ลาเก็น (Interlagen) หรือร้าน Daddy’s Antique ดูภายนอกอาจดูคล้ายโบสถ์แต่เป็นในส่วนของร้านอาหาร ตึกอัมสเตอร์ดัม  (Amsterdam) ตึกสีลูกกวาดด้านหลังและตึกทัสคานี (Tuscany) ด้านหน้า จริงๆแล้วเป็นในส่วนของโรงแรม มีห้องพัก18 ห้อง ด้วยการใช้สีที่โดดเด่นและเน้นใช้วัสดุที่ทำจากดิน จึงทำให้สถานที่แห่งนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นอิตาลีจนกลายเป็นสถานที่ถ่าย Pre-wedding ยอดฮิตไปโดยปริยาย
ตึกอินเทอร์ลาเก็น (Interlagen) หรือ Daddy’s Antique ร้านอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากโบสถ์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ตึกอัมสเตอร์ดัม  (Amsterdam) ตึกสีลูกกวาด เป็นห้องพักตอนนี้ยังไม่เปิดให้บริการเพราะยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย

ด้านในเน้นตกแต่งด้วยกระจกและของตกแต่งโบราณ “คำว่า ซานพารินี มาจากชื่อของ แพร น้องชาย และคุณพ่อ ไม่มีความหมายแต่อย่างใด การออกแบบทั้งหมดเราช่วยกันคิดขึ้นมา จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลูกค้าสามารถมาถ่ายรูปได้ค่ะ” แพร-นุจรี ดีอนันต์ลาภ เจ้าของโรงแรมบอกกับเรา
บริเวณล๊อบบี้และห้องอาหารถูกประดับประดาไปด้วยกระจกสีสันสวยงาม

2. England – John’s Hut (ช่วงนี้หยุด เปิดเดือนตุลาคม 2558)

พิกัด: สามารถไปได้ 2 เส้นทาง
เส้นทางที่ 1 ถนนสายเชียงใหม่ – ดอยสะเก็ด ทางหลวงหมายเลข 118 ผ่านศูนย์ศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ เลี้ยวขวาตรงป้อมตำรวจ บริเวณปากทางเข้าจะมีป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวบ้านโป่งดิน หรือเส้นทางไปน้ำพุร้อนดอยสะเก็ด
เส้นทางที่ 2 ถนนสันกำแพง-แม่ออน มุ่งหน้าไปทางแม่กำปอง เจอสามแยกห้วยแก้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนลาดยาง (เส้นทางไปน้ำพุร้อนดอยสะเก็ดและน้ำตกเทพเสด็จ)
เบอร์โทร: 088-2535973, 099-2686241
เวลาเปิด-ปิด: 09.00-17.00 น. ปิดทุกวันพุธ
John’s Hut กระท่อมหลังเล็กของลุงจอหน์ มีทั้งห้องพักและร้านกาแฟ ด้วยความที่ลุงจอห์นเป็นคนอังกฤษ สไตล์การตกแต่งร้านเขาจึงเน้นแบบอังกฤษแบบทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นกระท่อมขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ออกแบบให้คล้ายๆกับบ้านสไตล์อังกฤษชนบททั้งประตูทรงโค้ง และหลังคามุงด้วยหญ้า

บรรยากาศด้านในเน้นตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีธงชาติอังกฤษและดอกไม้สีหวาน จึงไม่แปลกใจเลยหากใครแวะมาที่นี่จะรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในเมืองเล็กๆสักเมืองหนึ่งในประเทศอังกฤษ

กระท่อมหลังน้อยกลางม่อนดอย นาข้าวและขุนเขาแห่งนี้มีทั้งชาหลากหลายรสชาติจาก TWINNING และพิเศษสุดกับ  John’s Hut Tea ชาสูตรพิเศษทีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยกลิ่นที่อบอวลไปด้วยดอกกุหลาบและเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีกาแฟ เค้กและอาหารสไตล์อังกฤษแท้ ไม่ว่าจะเป็นฟิชแอนด์ ชิพ (Fish and Chips) ไส้กรอกรวมสไตล์อังกฤษ (Mix British Sausage) สลัดจอห์นฮัท (John’s Hut Salad) และอีกหลากหลายเมนู เรียกได้ว่าเป็นแหล่งพักผ่อนอีกหนึ่งสถานที่น่าพาเพื่อนฝูงและครอบครัวไป

3. New Zealand – Aries Chiangmai  

พิกัด: ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จากแยกบิ๊กซีหางดงเลี้ยวขวาประมาณ 500 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ
เบอร์โทร: 081-0259595
เวลาเปิด-ปิด: ร้านกาแฟ 07.30 – 18.00 น. ร้านอาหาร 7.30-15.00 น.
Facebook: Aries Chiang Mai
พูดถึงประเทศนิวซีแลนด์ สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์คือแกะ สัตว์ที่มีขนปุกปุยน่ารักแถมหน้าตาดูซื่อๆ แต่ถือว่าเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนเข้าหาได้ไม่น้อย ด้วยความที่มีภูมิอากาศหนาวบวกกับสภาพแวดล้อมที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม นิวซีแลนด์จึงเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในเชียงใหม่ก็มีนิวซีแลนด์ ที่ร้าน Aries Chiangmai นั่นเอง
Aries ในภาษาละตินหมายถึงแกะตัวผู้ เป็นสัญลักษณ์ของราศีเมษ ร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้มีฟาร์มแกะให้ลูกค้าทุกท่านได้เข้าไปยลโฉมน้องแกะทั้ง 7 ตัวแบบถึงเนื้อถึงตัวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าหากใครอยากให้อาหารเสียค่าใช้จ่าย 20 บาท
ฟาร์มแกะขนาดเล็ก มีพื้นที่ให้เลือกถ่ายรูปได้หลากหลายมุม
ด้านหน้าร้านมีที่ให้เลือกนั่งหลากหลาย เมนูที่จำหน่ายมีทั้งชา กาแฟ เบเกอร์รี่และเบียร์อิมพอร์ท อาหารมีเบอร์เกอร์ ไข่กระทะ ข้าวมันไก่และก๋วยเตี๋ยวต้มยำคอยให้บริการทุกท่าน เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวครบเครื่องเรื่องกินเที่ยว
Affrogato ไอศกรีมกาแฟ 80 บาท
ข้าวมันไก่ 35 บาท, ไข่กระทะ 40 บาท, ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสะท้านโลก 50 บาท

4. Netherland – The Wind Mill Chiangmai 

พิกัด: ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จากแยกบิ๊กซีหางดงเลี้ยวขวาประมาณ 600 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ
เบอร์โทร: 086-6592825, 053-274800
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-23.00 น.
เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) หรือฮอลแลนด์ (Holland) ดินแดนแห่งกังหันลม ประเทศที่ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันตกตอนเหนือ ด้วยพื้นที่ 1 ใน 4 ของประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จึงต้องปรับพื้นที่โดยสร้างเขื่อนทางระบายน้ำและสถานีสูบน้ำจำนวนมากสูบน้ำออกจากพื้นที่เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ กังหันลมจึงเป็นเหมือนแหล่งพลังงานสำคัญในการสูบน้ำ สีข้าว โม่แป้งและต้ดไม้

พูดถึงเนเธอร์แลนด์เมืองไทย The Wind Mill คือหนึ่งในร้านอาหารที่อยากแนะนำ ด้วยจุดเด่นของกังหันสีฟ้าขนาดยักษ์ที่คอยหมุนเป็น Landmark ล่อตาล่อใจเหล่าบรรดาช่างกล้องทั้งหลาย ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ่าย Pre-wedding ยอดฮิตในเชียงใหม่
ภาพจาก: The Wind Mill Chiangmai
บ้านกังหันมีโซนหลากหลายทั้งห้องแอร์ ริมน้ำและห้องส่วนตัว เหมาะจัดเลี้ยงหรือจัดงานแต่ง อาหารมีหลากหลายทั้งอาหารไทยและยุโรป ทุกค่ำคืนจะดนตรีสดเล่นกลางน้ำชิลๆ มีเบียร์พร้อมจอดูบอล เมนูแนะนำ ขาหมูเยอรมัน ต้มยำปลาคังน้ำข้น หลนปู ปลากระพงผัดฉ่า ฯลฯ
ภาพจาก: The Wind Mill Chiangmai  วงดนตรีร้องเพลงโชว์กลางน้ำท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล

5. Scandinavian – Coffee Villa 

พิกัด: สาขา 1 โครงการ The Chill Park ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี บริเวณแยกบิ๊กซีหางดง สาขา 2 ถนนนิมมานฯ ซ.5
เบอร์โทร: 053-447620 /  086-3173263
เวลาเปิด-ปิด: 07.00 – 20.00 น.
Coffee Villa บ้านหลังเล็กย่านหางดงที่ดูอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ด้วยอาคารที่สร้างสไตล์ English Country บวกกับการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวีย รวมทั้งโลโก้กวางมูสที่ใช้มาเป็นตัวชูโรง ยิ่งทำให้เราจินตนาการถึงบรรยากาศของบ้านในประเทศแถบยุโรปได้ไม่ยากเลย

ด้วยความชอบในการทานกาแฟและสไตล์การตกแต่งแบบยุโรปของคุณกลาง – ชวภา วรรธนะประทีป เมื่อทั้งสองอย่างเกิดความลงตัวจึงเกิดเป็น Coffee Villa ขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ในร้านมีมุมให้เลือกถ่ายภาพได้หลากหลายถึงขนาดที่มีละคร ซีรีย์หลายเรื่องมาถ่าย รวมถึงรายการ Club Friday ตอน ความลับของสัญญาใจก็เพิ่งมาถ่ายเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
มุมถ่ายรูปยอดฮิตด้านหน้าร้าน
บรรยากาศด้านในมีหลากหลายมุมให้เลือกนั่ง จะมาคนเดียวหรือมาเป็นคู่ก็ดูชิลไม่น้อย
เมนูในร้านมีทั้งชา กาแฟ เบเกอร์รี่และอาหารจานเดียว ราคาเริ่มต้น 35-60 บาท

6. U.S.A – Grand Canyon

พิกัด : ถนนเลียบคันคลองชลประทาน (ทางไปพืชสวนโลกและไนท์ซาฟารีเชียงใหม่) ถึงแยกพืชสวนโลกตรงไปผ่านสีแยกไฟแดงหนองควาย ประมาณ 4 กม.เจอสนามกอล์ฟหางดงด้านซ้ายมือ จากสนามกอล์ฟประมาณ 300 เมตร เจอทางแยกให้เลี้ยวขวาเข้าโรงปูน PWS มีป้ายบอกทางประมาณ300 เมตร
แกรนด์แคนยอน (Grand Canyon) ดินแดนแห่งหุบผาชัน (Canyon) ประกอบไปด้วยหุบเหวสลับซับซ้อนสูง1600 เมตรและยาวถึง 450 กิโลเมตร ริมสองฝั่งแม่น้ำโคโรลาโด (Colorado) เมื่อแผ่นเปลือกโลกเกิดยกตัวและถูกกัดเซาะสองฝั่งแม่น้ำจนกลายเป็นหน้าผาสูงชันรูปทรงแปลกตา จนกลายเป็น Landmark สำคัญของรัฐแอริโซนาในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายแสนคนต่อปี

ในเชียงใหม่ก็มีแกรนด์แคนยอนเช่นกัน ซึ่งหลายท่านอาจได้ยินว่าเป็นบ่อดินมรณะบ้าง ที่เที่ยวสุดเฮี้ยนบ้างเพราะมีนักท่องเที่ยวจมน้ำหลายคนจากการกระโดดลงไปเล่นน้ำ แต่ด้วยความสวยงามของบ่อดินเก่าขนาดพื้นที่ความกว้าง 30 ไร่ ที่มีภูมิทัศน์สวยงามเหมือนแกรนด์แคนยอนบวกกับน้ำสีฟ้ามรกต จึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดที่ให้นักท่องเที่ยวหลายท่านอยากไปยลโฉมที่นี่กันไม่น้อย

แอ่งน้ำขนาดใหญ่ สูงเกือบ 15 เมตรหรือขนาดตึก 3 ชั้น มีความลึกของน้ำถึง 20 เมตรของคุณฉัตรกรินทร์ ตระกูลอินสัน เกิดจากขุดหน้าดินไปขายเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว

ความสวยงามแบบ Unseen ที่หาดูได้ยาก แต่แฝงด้วยอันตรายไม่น้อยหากลงไปเล่นน้ำ ปัจจุบันมีร้านอาหารและรีสอร์ทเกิดขึ้นมากมาย ใครที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติแบบปลอดภัยก็แวะทานอาหารพร้อมชมวิวย่านนั้นได้

7. West Africa – Giraffe Resturant

เบอร์โทร: 053-999033
เวลาเปิด-ปิด: ห้องอาหารด้านล่าง 11.00 – 14.00 น.ห้องอาหารด้านบน 17.00-21.00 น.
หากใครที่คุ้นเคยกับสารคดีชีวิตสัตว์ป่าในช่อง National Geographic โดยเฉพาะช็อตการไล่ล่าของเจ้าป่าอย่างเสือ สิงห์ กระทิง แรดสุดระทึกจากหน้าจอในทุ่งหญ้าสะวันนาสีเหลืองทอง คงคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมอันน่าสะพรึงในประเทศแอฟริกาใต้

ด้วยสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งจึงมีสัตว์มากมายอาศัยอยู่ ใครที่อยากสัมผัสอารมณ์เดียวกันแบบไม่ต้องเดินทางไกล แนะนำให้แล่นไปร้านอาหารยีราฟ ไนท์ซาฟารี คุณจะได้สัมผัสกับสัตว์ป่าหลากหลายประเภท ทั้งสิงห์โต เสือ (มองเห็นจากห้องอาหารด้านล่าง) ม้าลายและยีราฟคอยาวด้านนอก สามารถซื้ออาหารให้ได้
ด้านหน้าร้านมียีราฟหลายตัวแข่งกันยืนโชว์อวดขาอันเรียวยาว รอคอยคนให้อาหารอยู่
กวางน้อยรูปร่างระหงก็มาโชว์
เสือโคร่ง ดูท่าทางดุดันคอยคำรามให้ลูกค้าได้ตื่นเต้นเป็นระยะๆ


ร้านอาหารยีราฟ มี 2 สองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องกระจกชมสัตว์และมีไลน์บุฟเฟต์กลางร้าน แต่ถ้าหากจะสั่ง A la Carte ก็มีบริการทั้งอาหารไทย จีน ยุโรป ส่วนชั้นบนมีดนตรีสด WIFI สามารถมองกรงสัตว์ที่อยู่รอบๆได้แบบสบายๆและลูกค้ายังสามารถเข้าไปทานอาหารได้โดยไม่ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตูเข้าชมส่วนจัดแสดงสัตว์ แถมยังมีที่จอดรถรองรับมากกว่า 500 คัน

8. Japan – ขุนช่างเคี่ยน- สถานีเกษตรหลวง อ่างขาง-โครงการหลวงขุนวาง-แม่ยะ

พูดถึงประเทศญี่ปุ่นสิ่งหนึ่งที่หลายคนคาดหวังได้ยลโฉมครั้งหนึ่งในชีวิตคือ ดอกซากุระ (Cherry Blossom) ต้นไม้ในตระกูลเดียวกับต้นเชอร์รี มีกว่า 300 สายพันธุ์  ซึ่งจะผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการผลิบานของดอกซากุระ โดยทุกๆปีจะมีเทศกาล “ฮานามิ” ที่หมายถึงเทศกาลชมดอกไม้ (ฮานะ = ดอกไม้, มิ = ดู ชม) ทุกครอบครัวจะออกมาปูเสื่อล้อมวงนั่งกินอาหาร ดื่มสาเก ร้องรำทำเพลงกันใต้ต้นซากุระที่ออกดอกเต็มต้นกันอย่างสนุกสนาน
แต่ถึงแม้ว่าเมืองไทยจะเป็นเขตร้อนแต่ก็มีซากุระให้ได้ยลโฉมเช่นกัน ซึ่งก็คือดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ “ชมพูเวียงพิงค์“นั่นเอง มีข้อสันนิษฐานว่ามีบรรพบุรุษร่วมกันแต่คนละชนิด จึงมีช่วงระยะเวลาการออกดอกเบ่งบานต่างฤดูกาล ในไทยจะผลัดใบก่อนที่จะผลิดอกในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม
สถานที่ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมไป
– ขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ ผ่านพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์และหมู่บ้านแม้วดอยปุย ถึงแม้ว่าจะใกล้เมืองแต่ค่อนข้างและลาดชันต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ที่นั้นมีบริการบ้านพัก จุดกางเต็นท์ อาหารเครื่องดื่ม แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนล่วงหน้า
ข้อมูลติดต่อ: 053-222014

ชื่อภาพ :  “เข้าฤดูหนาวแล้ว ตากล้องนักล่านางพญาเสือโคร่งพร้อมยังครับ ดอยอินทนนท์, ดอยอ่างขาง, ขุนช่างเคี่ยน”

Twitter : @Ioving_friday

ชื่อภาพ :  “ขุนช่างเคี่ยน”

Twitter : @SBuakhiew

– สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ดอกบานบริเวณทางเข้าสู่โครงการหลวงดูสวยงามคล้ายอุโมงค์ดอกไม้ไปทั่วทั้งเขา
เส้นทางที่ 1: ใช้เส้นทางหลวง 107 (เชียงใหม่-ฝาง) เลี้ยวซ้ายบริเวณตลาดแม่ข่า กม. ที่ 137 จากนั้นใช้เส้นทางหลวง 1249
เส้นทางที่ 2: ใช้เส้นทางหลวง 107 (เชียงใหม่-ฝาง) เลี้ยวซ้ายบริเวณทางแยก ต.เมืองงาย จากนั้นใช้เส้นทางหลวง 1178 ผ่านหมู่บ้านอรุโณทัย
ข้อมูลติดต่อ: สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โทร 053-450107-9 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสถานีฯอ่างขาง โทร 053-450077
ชื่อภาพ :  “ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง”
ชื่อภาพ :  “ดอกไม้นานาพันธุ์ เห็นแล้วสดชื่นมาก ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขางค่าเข้าคนละ 50 บาท คุ้ม”

Twitter : @Iridescentp

– ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง อีกสถานที่สำคัญ นอกจากจะได้ยลโฉมดอกที่บานสะพรั่งไปทั่วทั้งดอยแล้วไฮไลท์สำคัญคือมีแปลงพืชผักผลไม้เมืองหนาว ผลิตภัณฑ์โครงการหลวงให้ได้ชมได้ซื้อ นอกจากนี้ยังมีที่พัก ร้านอาหารและร้านกาแฟครบครัน
การเดินทาง: ใช้เส้นทางหลวง 108 (เชียงใหม่-ฮอด) เลี้ยวขวาไปดอยอินทนนท์ ใช้ทางหลวง 1009 ถึงหมู่บ้านขุนกลาง เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านขุนวาง
ชื่อภาพ :  “ซากุระเมืองไทย ให้ฟิลลิ่งเหมือนอยู่ญี่ปุ่น…”

Twitter : @miaochun_su

 

ชื่อภาพ :  “ดอกพญาเสือโคร่งที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) เริ่มบานแล้วรู้ยัง”

Twitter : @Orinary01

– ขุนแม่ยะ ที่ห้วยน้ำดัง เป็นอีกหนึ่ง landmark สำคัญที่พลาดไม่ได้ ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานทั่วดอย
การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ถนนเชียงใหม่-ปาย ผ่านห้วยน้ำดัง ถึงด่านตรวจแม่ยะ ทางเข้าเป็นถนนลูกรังต้องระมัดระวัง

 

ชื่อภาพ :  “ขุนแม่ยะ”

Twitter : @kumanosuke_7


9. Korea – Story House

พิกัด: โครงการ 41 Park ซอยกองบิน 41
เวลาเปิดปิด : 11:00-22:00 น.
เบอร์โทร: 081-2988909, 088-2665719
Facebook: Story House
หากใครที่เป็นคอซีรีย์เกาหลีคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับภาพยนตร์โรแมนติก คอมเมดี้เรื่อง COFFEE PRINCE รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ ที่มีเรื่องราวน่ารักๆของสองพระนาง กง ยู และ ยุนอึนเฮ ให้ได้จิกกัดหมอนกันตลอดเวลา แต่ท่านไม่ต้องตาร้อนผ่าวอยู่ที่บ้านอีกต่อไป หากอยากได้บรรยากาศแบบนี้ให้ตรงดิ่งมาที่ Story House มีตุ้ยและหลง สองหนุ่มสาวคอยบริการท่านอยู่
บ้านเล็กหลังนี้เรียกได้ว่ามี Story เกือบทุกส่วนของร้าน ไม่ว่าจะเป็น“สะพานแห่งความรัก”ที่คู่รักหลายคู่ที่เข้ามาสามารถมาคล้องกุญแจกันได้ที่นี่  นอกจากนี้ยังมีมุมให้ติดป้าย “ทันโชกุ” ซึ่งเป็นการเขียนเรื่องราวต่างๆในชีวิตเพื่อขอพรกับดวงดาว ให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราคาดหวังไว้
“สะพานแห่งความรัก” มุมยอดฮิตของคู่รักหลายคู่ที่มาสามารถมาคล้องกุญแจกัน
“ทันโชกุ” ป้ายขอพรจากดวงดาว ที่ทุกคนเชื่อว่าการเขียนเรื่องราวต่างๆในชีวิตและอธิษฐานก็จะได้ในสิ่งที่คาดหวังไว้
Affrogato 88 บาท

10. India –  Vieng Joom On Teahouse

พิกัด: ถนนเจริญราษฎร์ ย่านวัดเกตการาม
เวลาเปิดปิด: 10:00-19:00 น.ทุกวัน
เบอร์โทร: 053-303113
เวียง แปลว่า นคร จูมออน แปลว่า ชมพู เวียงจูมออน คือ นครสีชมพู นี่คือที่มาของร้านชาที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ จุดเริ่มต้นจากความประทับใจครั้งเมื่อแพทย์หญิงจุรีย์ เชื้อรัตนพงษ์ ได้ไปเที่ยวพระราชวังสายลม (ฮาวา มาฮาล) เมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ที่มีสีชมพูทั้งหลัง โดยสร้างจากหินทรายสีชมพูและสีแดง และบวกกับความที่ชอบดื่มชา เวียงจุมออนทีเฮ้าส์ จึงเกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน
หน้าร้านตกแต่งด้วยสีชมพูทั้งหลัง
ด้านหลังร้าน นอกจากการตกแต่งจะเป็นสไตล์อินเดียแล้วยังมีกลิ่นอายของโมร็อกโคผสมผสานเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็น Landmark ที่สำคัญของเหล่าชอบ Check-in เมืองเชียงใหม่เลยก็ว่าได้
ชามีให้เลือกกว่า 60 ชนิดทั่วโลก เมนูแนะนำ ชาเวียงจุมออน โดดเด่นด้วยกลิ่นของสมุนไพรและผลไม้ไทย มีกลิ่นหอมชุ่มคอ นอกจากนี้ยังมี มาการอง และอาหารทานเล่นบริการด้วย
ชาร้อนๆ พร้อมทั้งขนมทานเล่น มาการองและทาร์ต 

11. Myanmar – The Swan Burmese 

พิกัด: อยู่บริเวณหัวมุมของถนนชัยภูมิก่อนถึงประตูท่าแพ
เวลาเปิดปิด: 12.00 น. – 23.00 น.
เบอร์โทร: 081-0992777 / 087-3817935
พม่า ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่เปรียบเหมือนกับไม้เบื่อไม้เมากับประเทศไทยมานาน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงความมีเสน่ห์คือ อาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยร้านอาหารในเชียงใหม่ที่ถือว่าเด็ดเข้าขั้นเหมือนได้บินไปทานที่ย่างกุ้ง หนึ่งในนั้นคือ The Swan Burmese
ทางเดินเข้าร้าน เน้นตกแต่งด้วยสีส้มสะดุดตา


ร้านอาหารพม่าแห่งนี้เปิดให้บริการแก่ผู้ชื่นชอบอาหารพม่าแท้ๆในมุมเล็กของถนนบนจราจรอันคับคั่งอย่างประตู่าแพมาเกือบ 5 ปี โดยคุณกิ่งกาญน์ลูกครึ่งไทย-พม่าและคุณนิค ฝรั่งตาน้ำข้าวจากดินแดนซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีบาร์เล็กๆ และไวน์รสเลิศไว้บริการกับผู้มาทานอาหารเพื่อเติมความอร่อยอีกด้วย

เมนูแนะนำ La Pat Toke (ละ-แพ็ต-โต๊ก) มีส่วนประกอบของใบชาหมักหรือเมี่ยงใบชาพม่า กะหล่ำปลี มะเขือเทศ กระเทียมและเพิ่มความกรุบกรอบของอาหารอย่างถั่วเหลือง อาหารจานนี้ทานคู่กับเครื่องเคียงอย่างกระเทียมสดและพริกขี้หนูสด สำหรับรสชาติอาจจะคุ้นเคยกับอาหารผักดองทางบ้านเราแต่พิเศษกว่าที่มีถั่วเหลืองกรุบๆ เพิ่มอรรถรสในการทานอาหาร

Ner Lung อ่านว่า เน่อ-ลุง ซึ่งในตัวลูกบอลมีส่วนผสมของมันฝรั่ง หัวหอม มะเขือเทศ ขิง เป็นต้น เนื้อเน้นๆ ผักเน้นๆ ตัดเลี่ยนด้วยซอสสูตรเด็ดรสชาติเปรี้ยวเผ็ดกลมกล่อม

Hin Lay อ่านว่า ฮิน-เล รสชาติออกเปรี้ยวๆ หวานๆ กำลังดี มีส่วนประกอบของเนื้อหมู ผงยี่หร่า มะเขือเทศ หัวหอม กระเทียมและขิง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ เหมาะเป็นแกงกินแก้หนาวและเพิ่มความกระชุ่มกระชวยเป็นอย่างดี


12. China – สวนสัตว์เชียงใหม่

พิกัด: ถนนสุเทพ ทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ
เวลาเปิดปิด: 8:00-18:00 น.ทุกวัน
เบอร์โทร: 053-221179 ต่อ 151,152,153
ค่าบัตรเข้าชม: ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็กสูงเกิน 135 ซม. 50 บาท
ไปเที่ยวเมืองจีน ใครๆก็ไปชมหมีแพนด้า หมีอ้วนขนปุยที่อาศัยอยู่ในอากาศหนาว ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เป็น Mascot สำคัญที่ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ถ้าหากคุณอยากชมหมีที่เชียงใหม่มีที่สวนสัตว์
ภาพจาก : สวนสัตว์เชียงใหม่

ช่วงช่วง หลินฮุ่ยและหลินปิง ฑูตวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและจีน ที่อยู่เชียงใหม่มากว่า 10 ปี เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสัตว์ที่สร้างความสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้ตลอดกับท่าทางที่น่ารัก ยียวนกวนประสาทของบรรดา 3 พ่อแม่ลูก และถึงแม้หลินปิงจะบินกลับประเทศไปหาคู่แล้ว แต่ความนิยมในการเข้าไปชมความน่ารักของบรรดาๆหมีๆก็ไม่ได้ลดลงเลย ใครที่อยากไปจีน ไปสวนสัตว์เชียงใหม่รับรองมีหมีให้คุณชมแน่นอน


ท่านใดมีที่เที่ยวน่าสนใจแนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ตามช่องด้านล่างหรือ

  

เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที

Relate Posts :