สัมผัสวิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมงามล้ำที่แม่แจ่ม

นาาขั้นบันได แม่แจ่ม

“แม่แจ่ม” อำเภอเล็กๆในอ้อมกอดของหุบเขามีเสน่ห์ตรงที่ผู้คนยังคงใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย มีวัฒนธรรมที่งดงาม ยิ้มแย้มแจ่มใส พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน อำเภอแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 150 กม. การเดินทางจากตัวเมืองมานั้นค่อนข้างลำบากเนื่องจากถนนหนทางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา แต่ก็มักมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมเยือนอยู่เสมอเพราะความสวยงามเฉพาะตัวแบบฉบับแม่แจ่ม จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เจ๋งตัดสินใจออกเดินทางในครั้งนี้

รถไปแม่แจ่ม
รถโดยสารประจำทาง (รถเหลือง) ที่ใช้เดินทางไปแม่แจ่ม

สำหรับการเดินทางไปแม่แจ่มนั้นสามารถขึ้นรถประจำทางหรือใช้รถส่วนตัว แต่เราเลือกใช้รถโดยสารประจำทาง (รถเหลือง) เพราะปลอดภัยกว่า เริ่มขึ้นรถจากประตูเมืองเชียงใหม่ ไปลงอำเภอจอมทองและเดินทางต่อไปแม่แจ่ม ถนนหนทางนั้นค่อนข้างแคบและลาดชัน หากไม่ชำนาญทางไม่แนะนำให้ขับขึ้นไปเองเพราะเส้นทางค่อนข้างอันตราย แต่หากอยากไปเองก็ควรเติมน้ำมันให้เต็มถังเพราะหาปั๊มเติมยาก

รถเหลืองจากเมืองเชียงใหม่ไปจอมทองมีทุกชั่วโมง ส่วนรถจอมทองเข้าแม่แจ่มจะมีตั้งแต่เวลา 9.00 น. 12.00 น. 14.00 น. 17.00 น. ส่วนรถแม่แจ่มกลับเข้าเมืองจะมีตั้งแต่เวลา ประมาณ 7.00 น. 9.00 น. 12.00 น. 14.00 น. 15.00 น. ทั้งไปและกลับส่วนรถจอมทองเข้าเชียงใหม่จะมีเกือบทุกชั่วโมงและเที่ยวสุดท้ายจะอยู่ที่เวลา 18.00 น. ค่ารถไปกลับ 100 กว่าบาท การเดินทางใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจากตัวเมืองเชียงใหม่
สถานีรถโดยสารประจำทางในตัวอำเภอแม่แจ่ม

เมื่อมาถึงแม่แจ่ม เราสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ได้ในราคาวันละ 200-300 บาท สถานที่แรกที่เราเลือกไปเยือนคือ “วัดพุทธเอิ้น” หรือในชื่อเดิมว่า วัดศรีสุทธาวาสเอ้นมงกุฎ ก่อสร้างมานานกว่า 200 ปี ภายในวัดมีโบราณสถานที่สวยงาม ทั้งโบสถ์กลางน้ำที่มีลักษณะเป็นสระสี่เหลี่ยมปักเสาลงน้ำ ล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่น้ำไหลตลอดปี ชาวบ้านเชื่อว่าถ้าได้ดื่มจากบ่อน้ำนี้แล้วสุขภาพจะแข็งแรง นอกจากนี้ในวิหารเก่าแก่ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ดูเลือนลางไปมากแต่ยังคงเป็นมรดกที่สำคัญ

วิหารวัดพุทธเอ้น
วิหารเก่าแก่ภายในวัดพุทธเอ้นที่มีภาพฝาผนังสวยงามด้านใน
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แม่แจ่ม
บ่อน้ำศักดิ์สิทธ์ที่คอยหล่อเลี้ยงผู้คนในแม่แจ่ม

“วัดป่าแดด” อีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหารและยังคงสมบูรณ์ความสมบูรณ์อยู่ วาดโดยช่างแต้ม ศิลปินชาวไทยใหญ่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติและนิทานชาดกหลายหลากเรื่องราว วิหารหลังนี้สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างวัดเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2400 ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าผา ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม


วัดป่าแดด
บรรยากาศภายในวัดป่าแดด

“วัดยางหลวง ” วัดนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดป่าแดด สร้างโดยชาวกะเหรี่ยงหรือ “ยาง” มีการสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 24 สิ่งที่น่าสนใจคือ กู่ปราสาท หรือ กิจกูฏ ซึ่งตั้งอยู่หลังพระประธานในวิหาร คนโบราณถือว่าเป็นประตูไปสู่สวรรค์ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของกิจกูฏเป็นแบบพุกามจากพม่าผสมผสานกับศิลปะล้านนาสกุลช่างเชียงแสน และด้านหลังวิหารมีจิตรกรรมภาพวาดที่สวยงามน่าเข้าไปเยี่ยมชม นอกจากนี้ยังมีวัดบ้านทัพ วัดกองกาน วัดกองแขก ที่เป็นสถานที่สวยงามอีกเช่นกัน

วัดยางหลวง

นอกจากจะมีสถาปัตยกรรมและธรรมชาติที่งดงามแล้ว แม่แจ่มยังมี “ผ้าซิ่นตีนจก” สุดยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ต้องอาศัยฝีมือที่ประณีตละเอียด จึงจะได้ผ้าตีนจกที่มีลักษณะพิเศษ กรรมวิธีการสร้างลายจกจะเป็นแบบ “คว่ำลายลง” คือการจกจากด้านหลังของผ้า แทรกเส้นฝ้ายหรือเส้นไหมโดยใช้ขนเม่นหรือไม้ปลายแหลมสอดและนับเส้นพุ่งเส้นยืนแล้วใช้เส้นพุ่งพิเศษ จากนั้นผูกเก็บปมเส้นพุ่งพิเศษด้านบนอย่างปราณีต ผ้าที่ได้จึงมีลวดลายแน่นเรียบคล้ายกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ชาวบ้านที่นี่ทำผ้าตีนจกกันถึง 150 ครอบครัว และแต่ละหลังจะมีเครื่องทออยู่ใต้ถุนบ้าน ผู้หญิงแม่แจ่มที่นี่เกือบทุกคนจึงสามารถทอผ้าได้ ถือว่าเป็นมรดกล้ำค่าของแม่แจ่มที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจริงๆ

ผ้าซิ่นตีนจก
ผ้าซิ่นตีนจก สินค้าโอท็อปของแม่แจ่ม

“ปิ่นแม่แจ่ม” อีกหนึ่งภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเหลือเพียงลูกหลานของลุงก้อนแก้ว อินต๊ะก๋อน เท่านั้นที่ยังสืบทอด ปิ่นแม่แจ่มมีเอกลักษณ์ตรงที่ทำจากแผ่นทองเหลืองหรือเงิน จากนั้นนำมาขึ้นรูปตอกลาย งานทุกชิ้นขึ้นมือหมด ใช้เวลากว่าเกือบ 3 ชั่วโมงกว่าจะได้ปิ่น 1 ชิ้น

ปิ้นแม่แจ่ม


ปิ่นแม่แจ่ม
ลุงก้อนแก้ว อินต๊ะก๋อน ครอบครัวผู้สืบทอดการทำปิ่นแม่แจ่ม
ตลาดแม่แจ่ม วิถีชีวิตแม่แจ่ม
หากใครชื่นชอบวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ ต้องแวะไปตลาดสดเทศบาลตำบลแม่แจ่ม มีผักผลไม้สดๆของชาวเขามาจำหน่ายทุกเช้า
แม่น้ำแม่แจ่ม
สายน้ำแม่แจ่ม แม่น้ำสายหลักที่คอยหล่อเลี้ยงผู้คน
หลังจากที่เราพาชมพาเที่ยววัดจนหนำใจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือการไปชมนาขั้นบันไดที่ “บ้านป่าบงเปียง” และ “บ้านกองกาน” ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน ก.ย.-ต.ค.จะเห็นทุ่งนาเขียวชอุ่ม แต่หากมาในช่วงปลายฝนต้นหนาวตั้งแต่ปลายต.ค.-กลางพ.ย. ทุ่งนาก็จะเปลี่ยนไปเป็นสีทองเหลืองอร่ามงดงามยิ่งนัก เพราะอาชีพหลักของชาวแม่แจ่มจะทำการเกษตรไม่ว่าจะเป็นทำนา ทำไร่ แต่น่าเสียดายที่ทริปนี้ทางทีมงานไม่สามารถเก็บภาพท้องนาสวยๆที่บ้านป่าเบียงปงได้ เพราะทางขึ้นไปยากลำบาก ต้องมีรถโฟลว์วิวหรือมอเตอร์ไซค์ที่คนขับชำนาญทางถึงจะขึ้นได้  หากใครไม่มีรถสามารถติดต่อเช่ารถของชาวบ้านในราคา 200-300 บาท
นาขั้นบันได แม่แจ่ม
ภาพทิวทัศน์สวยๆข้างทางในตัวอำเภอแม่แจ่ม
นาขั้นบันได
นาขั้นบันได้กำลังเขียวชอุ่มในช่วงฤดูฝน ระหว่างทางขึ้นไปบ้านป่าเบียงปง
ชาวบ้านที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใส อัธยาศัยดีมาก

หนาวนี้หากใครอยากมาเยือนแม่แจ่มเมืองเล็กมีมนต์เสน่ห์เฉพาะตัวจนถูกขนานนามว่าเป็นเมืองลับแลแห่งขุนเขาแห่งนี้ อย่าลืมวางแผนการเดินทางรวมถึงที่พักให้ดีและรับรองว่าคุณจะต้องหลงมนต์เสน่ห์ของแม่แจ่มจนอยากไปสัมผัสอีกครั้ง เจ๋งแนะนำร้านอาหารอร่อยที่ ร้านข่วงนา และที่พักสวยๆ เฮือนแจ่มรัฐ


ท่านใดมีที่เที่ยวสวยๆในอำเภอแม่แจ่ม แนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ตามช่องด้านล่างหรือ

  

เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที

Relate Posts :