ป้าตุ้มขนมปังปิ้ง ม.พายัพ

ถูกและดีอยู่ตรงนี้ที่ร้านป้าตุ้มขนมปังปิ้ง ขายมาหลายปีผ่านหน้าผ่านตานักศึกษา ม.พายัพก็หลายที มีใครรู้ไหมป้าเขาขายมากี่ปี เข้ามาตรงนี้ไปดูที่คลิปกันสักที ฟิ้ววววว

ช่วยเล่าประวัติและที่มาหน่อยได้ไหมครับ ?


ป้าตุ้ม : ป้าชื่อตุ้ม ขายขนมปังปิ้งป้าตุ้มนี่แหละ ป้าก็มาขายที่พายัพ ได้ยี่สิบกว่าปี เดิมทีป้าขายอยู่ร้านทับทิมกรอบเจ๊อ้วน เป็นลูกจ้างน้า แล้วก็ขายขนมปังด้วย ขายก๋วยเตี๋ยว ขายของในร้าน แล้วน้าก็บอกว่า ลองออกไปขายขนมปังปิ้งดูไหม เพราะว่าทำคนเดียวได้ไม่ต้องใช้ลูกจ้างไม่ต้องใช้เด็ก ก็เลยเริ่มขายจนวันหนึ่งคนรู้จักบอกลองมาขายใน ม.พายัพไหม เราก็ว่าดีเหมือนกันนะ ขายเด็กโต ก็เลยมา มาปี 39 ก็มาขายที่นี่ ตั้งแต่ขายปี 39 ก็ไม่ไปไหนเลย อยู่กระทั่งทุกวันนี้

ความพิเศษของมันคืออะไร ?

ป้าตุ้ม : ความพิเศษเหรอ ? ต้องถามลูกค้าดูว่าพิเศษตรงไหน แต่หนึ่ง ขนมปังเราทำกันเอง ทำอยู่ในกลุ่มของเรา แล้วก็พวกไส้เราก็ทำกันเอง และเราก็ไม่ทาเนยข้างนอก เจ้าอื่นเขาก็ต้องทาเนย ขนมปังของเขาจะนุ่ม แล้วสวย แต่ของเรา ไม่นุ่ม เพราะว่าของเราจะกรอบนอก แต่นุ่มใน พวกไส้เราก็ใช้ของเราโดยเฉพาะ สังขยาเราก็ต้องใช้กะทิสด เราไม่ใช้กะทิกล่องเพราะกะทิกล่อง ความมันความอร่อยมันไม่เหมือนของเรา อย่างเนยก็เหมือนกันเราใช้เนยอย่างดี ยี่ห้อดีๆ ไป พวกแยมอะไรก็ยี่ห้อดีๆ อย่างน้ำพริกเผาเราจะต้องใช้ของดีทั้งหมด ถึงต้นทุนมันจะสูงแต่เราก็ยังอยู่ได้ จุดตรงนี้คือเราขายประจำที่ ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายมาหาเรา เราจะต้องเอาของที่มีคุณภาพและของดี ลูกค้าเข้ามา กำไรน้อยหน่อยไม่เป็นไร จริงๆ แล้วเราก็อยากขายให้ได้กำไรเยอะๆ แต่ว่ามันไม่ได้ เราได้กำไรลูก 1-2 บาท วันหนึ่งเราขาย 200-300 ลูก เราก็ได้แล้ว เราต้องคิดแบบนี้


แล้วมีความสุขไหม ?

ป้าตุ้ม : ความสุขเหรอ ? มันก็มีความสุขถ้าวันไหนเราขายดีเฮฮา วันนั้นไม่อยากกินไม่อยากหิวเลย สนุก!! มัวแต่ขายก็เฮฮาไป เมื่อก่อนมาถึงนี่ 7 โมงเช้า พอเด็กมาถึงก็ถาม “ป้าได้หรือยัง?” มาถึงรุมกันเลยนะ บอกเดี๋ยวใจเย็นๆ ก็รีบเปิดจุดแก๊สเพราะของเตรียมมาหมดแล้ว แล้วก็เวลาขายดีกันก็จะมีความสุข หันไปหัวเราะ “อ่าว เป็นลมหรือยัง ระวังเป็นลมนะ” คือต่างคนต่างไม่มีเวลาก็จะแซวกันแบบนี้ ลูกค้าถามป้าขายดีจังเลย ก็ลูกค้ามาพร้อมกัน เวลาขายไม่ดีก็นั่งหลับไม่มีใครเห็น มาเห็นตอนขายดี ก็จะมีความสุขกันไปแหย่กันไป

แล้วตอนนี้ล่ะ ?

ป้าตุ้ม :  ตอนนี้ทุกข์เหมือนกัน เรื่องที่มันขายของยอดมันน้อยลง ทุกคนมีทั้งความทุกข์และความสุข แต่เราก็อย่าเอาความทุกข์มานั่งซีเรียส บางทีมันขายไม่ดี เงินก็ไม่ค่อยมี ไอ้โน่นต้องทำ ไอ้นี่ต้องทำ ของก็ต้องซื้อ ก็ต้องเฉลี่ยไป ถ้าเราเครียดปุ๊บนะ เราจะไม่คุยกับใครจะนั่งเฉยๆ แล้วเราก็จะมองคนอื่น คิดให้ได้ว่า คนนั้นเข้ายิ่งกว่าเรา คนนี้เขายิ่งกว่าเรา แล้วทำไมจะต้องเครียดต้องอารมณ์ไม่ดี คนที่เข้ามาซื้อเขาไม่รู้อารมณ์เรา บางทีเขามาถึงเขาพูดเล่นกับเรา เราจำเป็นต้องพูดเล่นกับเขา เขาคุยนู่นนี่นั่นไปปุ๊บ เราก็สดชื่นไปโดยอัตโนมัติ ลูกค้าที่นี่ส่วนมากมาคือเขาไม่จู้จี้ มีแต่แนะนำ ทำไมขายถูก เราก็บอกว่าเราขายเอาคุณภาพ แล้วก็ขายเอาลูกค้าประจำ เพราะเราต้องการอยู่ที่นี่ตลอดไป

Relate Posts :