มาเก๋ นั่งเท่ ดื่มกินเช้ายันดึก นึกถึง Aji by Rimping

ลายแทงร้าน : ชั้น B1 ศูนย์การค้า MAYA
เวลาเปิดร้าน : ทุกวันเวลา 06:00-00:00
เบอร์โทร : 053 904 841
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตโดยมี Lifestyle ที่เป็นเอกลักษณ์และมีแนวทางในแบบที่ไม่เหมือนใครแล้วล่ะก็ เจ๋งคิดว่าสถานที่ต่อไปนี้จะต้องเป็นสถานที่ๆ ตอบโจทย์ให้แก่คุณทั้งหลายได้อย่างแน่นอนกับ “Aji by Rimping” ที่คุณสามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ข้างในนั้นได้ตั้งแต่เช้าตรู่ยาวไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว (ถ้าคุณไม่เบื่อที่จะอยู่ยาวๆ แบบนั้นนะครับ) ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องนี้แล้วเดี๋ยวเจ๋งจะขออาสาพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Aji by Rimping ให้มากขึ้นผ่านทางประสบการณ์ที่เจ๋งได้เข้าไปอยู่ที่ร้านนี้มา 1 วันเต็มๆ (เพื่อที่จะได้ซึมซับอารมณ์ต่างๆ และมาเล่าต่อได้อย่างเต็มที่ไงครับ)

ว่าแล้วเราก็มาเริ่มต้นชีวิตในเช้าวันใหม่กันด้วย “ชุดอาหารเช้า” จาก Aji กันดีกว่า ชุดอาหารเช้านี้ถือว่าได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากมีราคาที่ไม่แพงเลย เริ่มต้นเพียง 59 บาท เท่านั้นเอง ในชุดอาหารเช้านั้นประกอบไปด้วย ไข่ดาว, ไส้กรอก, แฮม, ขนมปังปิ้งพร้อมเนย และ แยม, น้ำส้ม และ กาแฟ เรียกได้ว่าจัดมาให้แบบคุ้มค่ากันเลยทีเดียว

อาหารเช้าของที่นี่เริ่มให้บริการกันตั้งแต่ 06:00 ยาวไปจนถึง 11:00 เรียกได้ว่าพร้อมให้บริการและรองรับลูกค้าในหลากหลายไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันตั้งแต่คนที่ต้องตื่นเช้ามากไปจนถึงคนที่ตื่นสายๆ แบบตัวผมนี่แหละครับ

หลังจากที่ทานอาหารเช้ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาของการทำงานแล้วล่ะครับ ในปัจจุบันการทำงานนั้นไม่ใช่เพียงแต่การนั่งอยู่ออฟฟิศกันเพียงอย่างเดียว สำหรับคนรุ่นใหม่แบบเจ๋งแล้วไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ขอแค่มี iPad และ Internet เพียงเท่านี้ การรับ-ส่ง E-mail, ประชุมงานผ่านทาง Video Call, หาข้อมูลใน Website ก็เป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัสแล้วล่ะครับ

นั่งทำงานไปซักพัก ความง่วงเริ่มเข้าปกคลุม หนังตาที่เคยมีตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปเป็นภูเขาหินก็มิปาน …ไม่ได้การแล้วล่ะ ผมคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปทุกอย่างคงจะแย่แน่นอนผมคงจะต้องนอนหลับไปโดยไม่รู้ตัว น้ำลายยืดให้ชาวบ้านชาวช่องเค้าได้เห็นกันจนทั่วแน่เลย ในขณะที่สติกำลังล่องลอยไปภาพสุดท้ายก่อนที่ผมจะหมดสติลงผมก็ได้เห็นกับสิ่งนี้ สิ่งที่จะเป็นตัวช่วยของผมในช่วยบ่ายนี้ สิ่งนั้นคือ….. ชุดน้ำชายามบ่าย นั่นเอง!!!

ชุดน้ำชาของที่นี่มีให้บริการในช่วง 14:00 – 17:00 โดยมีอยู่ 2 ขนาดด้วยกันแล้วแต่ว่ามานั่งกินกันกี่คน ถ้าหากมา 1-2 คน ผมก็ขอแนะนำเป็นชุดนี้เลย “Petite Service” ที่ประกอบไปด้วย Scones หรือ ขนมปังก้อนกลมๆ ใช้ทานคู่กับแยมและน้ำชายามบ่ายในสไตล์อังกฤษ Tarts, Finger Sandwiches, นม, เนย, แยม และ ชา ที่เราสามารถเลือกได้เองครับว่าจะเอาเป็นชาชนิดไหน แต่ถ้าหากมา 3 คนขึ้นไปเจ๋งแนะนำเป็นเชตนี้ “Grand Service” ภายในชุดประกอบด้วยสิ่งต่างๆ เหมือนกับชุดแรก แตกต่างกันที่ ได้ Cake และ Roll เพิ่มขึ้นมาให้พอดีสำหรับการทานหลายคน สำหรับชุด “Petite Service” อยู่ที่ราคา 200 บาท และ ชุด “Grand Service” อยู่ที่ราคา 350 บาท

ถ้าหากใครมาที่นี่และกำลังมองหาอาหารมื้อเย็นอยู่ล่ะก็ผมคิดว่าคุณมาถูกที่แล้วล่ะครับ เพราะที่นี่ก็มีอาหารเย็นไว้คอยบริการอีกเช่นกัน (ความจริงเค้ามีหมดทั้งอาหาร เช้า – กลางวัน – เย็น) ว่าแล้วก็อย่าเสียเวลาเลยดีกว่าครับมารู้จักกับสองเมนูอาหารที่เจ๋งอยากจะแนะนำกันในวันนี้ดีกว่าครับ


“Pork Chop with Tonkatsu Sauce and Mashed Potato” เนื้อหมูติดกระดูกย่างด้วยไฟแบบพอดีทำให้เนื้อนุ่ม หวาน และไม่แข็งจนเกินไป ราดด้วยซอสทงคัตซึ เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ อาทิ มันบด, ผัก ซึ่งคอยตัดรสชาติไม่ให้เรารู้สึกเลี่ยนจนเกินไป

Pork Chop with Tonkatsu Sauce and Mashed Potato 250 บาท

“Grilled Salmon with Teriyaki Sauce and Caramelised Shallot” สเต็กปลาแซลมอนชิ้นโตย่างจนสุก เสิร์ฟพร้อมซอสเทอริยากิและข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งกินยิ่งวางไม่ลง

Grilled Salmon with Teriyaki Sauce and Caramelised Shallot 180 บาท

ในรอบดึกหากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบไปนั่งดื่มในบรรยากาศที่เสียงดัง เอ๊ะอ๊ะโวยวายแล้วล่ะก็ เจ๋งขอแนะนำที่นี่ Cheese Bar ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับ Aji นั่นแหละครับ (ความจริงสามารถมานั่งที่นี่ได้ตั้งแต่ 11:00) พูดถึงชีสแล้ว ผมก็มักจะคิดถึงอีกสิ่งหนึ่งที่มักจะกินคู่กันอยู่เสมอๆ คือไวน์นั่นเอง การทานชีสกับไวน์นั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าจะพูดอธิบายกันแบบจริงๆ จังๆ คงต้องใช้เวลามากพอสมควรดังนั้นผมขอข้ามไปก่อนนะครับในเรื่องนี้ แต่เอาเป็นว่าท่านผู้อ่านที่อยากกินชีสจิบไวน์ สามารถมาที่นี่ได้เลยครับ โดยที่ท่านอยากจะกินไวน์ตัวไหนก็สามารถที่จะเดินไปเลือกที่ชั้นวางได้เลย ส่วนหน้าที่ในการเลือกชีสที่เข้ากันนั้นผมแนะนำว่าปล่อยให้ทาง Cheesemonger จัดการให้เราน่าดีกว่าครับ รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังเพราะเค้าถือว่าเป็นทั้งกูรูและเชฟในเรื่องชีสเลยทีเดียว

หลังจากที่เลือกไวน์เรียบร้อยแล้วชีสชุดแรกก็พร้อมเสิร์ฟ “Greek Mythology” เมนูนี้ค่อนข้างน่าสนใจมากเลยทีเดียวเพราะผมได้มองดู Cheesemonger ทำแล้วก็คิดตามไปด้วยว่า.. เห้ย!! สั่งชีสนี้มันจะอะไรมากมายเนี่ย จานก็ต้องแช่เย็นมา กินชีสเฉยๆ ก็ไม่ได้ต้องกินพร้อมกับแตงโมและเครื่องเคียงอีกหลายตัว แล้วมันจะอร่อยเหรอ? แต่คำถามเหล่านี้ได้หายไปจากหัวของเจ๋งทันทีหลังจากที่ได้ลองกัดคำแรก รู้สึกได้ถึงความเย็น ความสดชื่นความหวาน หอม มัน ละมุนลิ้น ฯลฯ ต้องบอกว่าวิเศษมากจริงๆ เรียกได้ว่าออกแบบมาอย่างลงตัวแทบจะครบทุกความรู้สึก

 Greek Mythology 250 บาท
ชุดต่อมาก็สร้างความตะลึงให้อีกแล้วครับกับ “Cheese Platter” ที่มาแบบเป็นชุด ซึ่งจัดมาแล้วแต่ความเหมาะสมของเครื่องเคียงกับชีส ดังนั้นหากใครไปสั่งแล้วสิ่งของต่างๆ ในตะกร้าไม่เหมือนกับของผมไม่ต้องตกใจไปนะครับ นั่นก็เพราะว่าชีสของเราเป็นคนละชนิดกัน เค้าเลยต้องเปลี่ยนของเคียงให้เข้ากันกับชีสที่สั่ง ว่าแล้วเราก็มาลองดูกันที่ชุดนี้ก่อนดีกว่า ชีสที่ผมได้เลือกมานั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่ Tome de Savoid ตัวนี้เป็นชีสจากฝรั่งเศสผลิตจากนมวัว รสชาติและกลิ่นไม่แรงมากทานง่ายสำหรับทุกคน Cabrales เป็น Blue Cheese หรือที่เรารู้จักกันในชื่อที่ว่า ชีสขึ้นรานั่นแหละครับ ชีสชนิดนี้ผลิตขึ้นในประเทศสเปน จะผลิตกันแค่ในช่วงปลายฤดูร้อนเท่านั้น โดยมีส่วนผสมจากนมวัว นมแกะและนมแพะ สำหรับชีสตัวนี้ถ้าใครไม่ได้ชอบชีสจริงๆ ผมแนะนำให้เลี่ยงเพราะรสชาติและกลิ่นแรงมาก แต่ความอร่อยก็มีอยู่มากด้วยเช่นกัน ต่อมาที่ตัวสุดท้ายกับ Burrata ชีสก้อนสีขาว เนื้อนุ่ม เหมือน Marshmallow ชีสชนิดนี้มีความเป็น Creamy สูงครับ สำหรับ Cheese Platter นี้ราคาก็จะขึ้นอยู่กับชีสชนิดต่างๆ ที่เราเลือกครับไม่มีราคาตายตัว


เสร็จแล้วก็ได้เวลาของการดื่มด่ำแล้วล่ะ สำหรับตัวผมแล้วผมคิดว่าการได้มาลองนั่งดื่มไวน์แล้วก็กินชีสที่ Cheese Bar นี่มันเป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่ค่อนข้างต่างไปจากการที่เราไปนั่งดื่มตามร้านข้างนอก หรือ ที่บ้านพอสมควรครับ เนื่องจากหากเราไปนั่งดื่มที่ร้านอื่น เวลาที่เราสั่งชีสไปเค้าก็จะนำเอามาเสิร์ฟโดยที่ไม่ได้ดูและให้คำแนะนำกับเราว่าไวน์ที่เราสั่งหรือเลือกมานั้นมีความเหมาะสมกับชีสแบบไหนบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วมันก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนพอสมควร ดังนั้นผมคิดว่าหากจะนั่งดื่มไวน์ที่ไหนซักที่ ต้องเป็นที่นี่แหละครับ Cheese Bar

จะว่าไปผมเองก็มีเรื่องที่อยากจะบอกกับท่านผู้อ่านทุกท่านมากๆ อยู่อีกเรื่องนึงครับนั่นคือ.. ทุกครั้งที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นไปได้ เมาไม่ขับ นะครับเพราะว่านอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้วยังเสี่ยงต่อการโดนลูกเสือจับอีกต่างหาก ว่าแล้วคืนนี้ผมคงต้องโทรเรียก Taxi มารับแล้วล่ะครับไหนๆ เชียงใหม่ก็มี Taxi ไว้ให้เรียกใช้บริการกันตลอด 24 ชั่วโมงแล้วด้วย เพื่อความปลอดภัยของตัวผมเองและคนอื่นๆ บนท้องถนน

ท่านใดมีร้านอร่อยๆในเชียงใหม่แนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้ตามช่องด้านล่างหรือ

เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที

Relate Posts :

รวมร้านมิชลิน ไกด์เชียงใหม่ ประจำปี 2023 อร่อยเด็ด ต้องลอง!

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineสวัสดีจ้าวว วันนี้แอดมาแจกพิกัดร้านอาหารที่การันตีความอร่อย บอกเลยว่าแต่ละร้านไม่ธรรมดา!! เพราะเขาได้รางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ เป็นรางวัลที่ทางมิชลิน มอบให้กับร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล แต่ละร้านก็มีรสชาติอาหารที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งเนื้อนุ่มๆ ละลายในปาก น้ำแกงที่เข้มข้มสุด กับอาหารทะเลแบบสดๆ ว่าแต่จะมีร้านอะไรบ้าง ตามแอดมากั๋นได้เลยจ้าวว 1. ก๋วยจั๊บช้างม่อยตัดใหม่ ร้านที่การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลิน 2020 – 2023 และจำนวนลูกค้าที่มาไม่ขาดสาย เมนูขึ้นชื่อก็คงไม่พ้นก๋วยจั๊บน้ำซุปกลมกล่อม อัดแน่นไปด้วยหมูกรอบและเครื่องใน มีไส้ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน นอกจากเมนูก๋วยจั๊บที่ขึ้นชื่อว่าไม่ควรพลาดแล้ว เค้าก็ยังมีเมนูเกาเหลา ก๋วยเตี๋ยวหลอด ปอเปี๊ยะสด และข้าวหมูกรอบที่อร่อยไม่แพ้กันเลย แอดขอบอกเลยว่าหมูกรอบที่นี่คือลำแต้ๆ จ้าว กรอบจริง! 2. ครัวป้าอ้อย ร้านอาหารตามสั่งโดยป้าอ้อย ที่จะทำอาหารสดใหม่จานต่อจาน อาหารมีหลากหลาย แอดลองไปกินก็รอคิวสักพักเค้าจะมีโซฟาให้นั่งรอเน้อ แล้วก็ให้จดรายการอาหารไว้เพี่อความรวดเร็ว พออาหารมาถึงเท่านั้นแหละ หอมขนาด อร่อยถูกปาก แอดชอบเมนูผัดผงกะหรี่ กินกับน้ำพริกน้ำปลาของทางร้านคือเด็ดมากกก นอกจากนี้ร้านป้าอ้อยก็ยังมีอีกหลากหลายเมนู บอกเลยว่าอิ่มคุ้มจ้าววว 3. บุศริน ร้านเด็ดอีกร้านที่เมนูแต่ละเมนูครีเอทจากความชอบของเจ้าของร้าน อาหารไม่มีผงชูรส เน้นคุณภาพและวัตถุดิบ […]

tanna

November 25, 2022

8 ร้านหม่าล่าเชียงใหม่ เด็ด เผ็ด ฟินท้าลมหนาว

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineเข้าหน้าหนาวแล้ว หาร้านนั่งดริ้งกันอยู่รึป่าวน้าา วันนี้แอดมาแจกพิกัดร้านหม่าล่าท้าลมหนาว จะมานั่งเม้าส์มอยกับชาวแก๊งค์ก็ดี มานั่งคนเดียวก็ไหว กินหม่าล่าเผ็ดชาลิ้นกันไปข้าง พร้อมจิบเครื่องดื่มรับบรรยากาศฟินๆ คือปังเน้อ อ่ะ ว่าแล้วอย่ารอช้าตามแอดมาเลยจ้าวว Funky Grill หม่าล่า ฟังกี้กริลล์ แคมป์หม่าล่าเชียงใหม่ ควันจุ๊งจุ๊งหมาล่า ปิ้งย่างฮอตซิก สถานีหม่าล่า หม่าล่า 4 แยก (สาขาศรีปิงเมือง) หม่าหล่าพายัพ (แยกหนองประทีป) หม่าล่าเด้าลิ้นกาดสามแยก 1. Funky Grill หม่าล่า ฟังกี้กริลล์ ฟังกี้กริลล์คือร้านปิ้งย่างหม่าล่า ที่พัฒนารสชาติปิ้งย่างหม่าล่าจากแบบดังเดิม ปรับปรุง ทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าเลยเน้อจ้าว จนได้รสชาติหม่าล่าที่อร่อยถูกปากในสไตล์ฟังกี้กริลล์ มีให้เลือกทานถึง 50 กว่าเมนู เปิดให้บริการถึง3สาขาจ้าวว พิกัด: ฟังกี้กริลล์ สาขาห้วยแก้ว เปิด-ปิด: ทุกวัน 17:00 – 02:00 น. Facebook: Funky Grill หม่าล่า ฟังกี้กริลล์ […]

tanna

November 11, 2022

Seoul By Nimman เทปันยากิเกาหลี ลีลาดี รสชาติลำ

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineมากินอาหารเกาหลีรสชาติต้นตำรับแบบลำๆ กันจ้าวว ร้านเค้าอยู่ปากซอยนิมมานซอย 5 ฝั่งศิริมังคลาจารย์ มีที่จอดรถ เน้อ บุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลีอยู่ที่ 499 บาท/คน ไม่จำกัดเวลา!!  มากับเพื่อนก็ดี มาคนเดียวก็ได้ ราคานี้รวมหมู กุ้ง ไข่ม้วน กิมจิ ซุป และอื่นๆ มีเครื่องจิ้มอยู่ 4 แบบ ( น้ำจิ้ม 3 รส/ คันจัง/ โคชูจัง/ โซกึม ) ซึ่งบอกเลยว่าความพิเศษของทางร้านคือการที่มีเชฟปรุงอาหารให้แบบพร้อมกิน เราก็นั่งรอไปเพลินๆ ไม่ต้องปิ้งเองจ้า เริ่ดมาก! แอบกระซิบหน่อยว่าน้ำมันที่ใช้ย่างเป็นน้ำมันหมักกระเทียมเกาหลีสูตรของทางร้าน ที่บอกเลยว่าหอมมากกกก  บุฟเฟต์ปิ้งย่างมาแบบจัดเต็มทั้งหมู กุ้ง ผัก และอื่นๆ แถมมีเชฟย่างให้ ตัดให้ ดีมากแม่! จะกินกับข้าวหรือกินกับผักก็ได้ ใส่น้ำจิ้มนิด กิมจิหน่อย บอกเลยว่าฟิน นอกจากเมนูบุฟเฟต์แล้ว ร้านเค้ายังมีเมนูแบบอื่นๆ ให้ได้เลือกกันด้วยน้า เช่น เมนูเซ็ทกลางวัน […]

Ninereview

November 1, 2022

ฮะจิบัง ไคเซนเมน ราเมนแห้งหน้าแน่น เครื่องเต็มชาม!

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineฮะจิบัง กลับมาอีกครั้งแล้ว ตามคำเรียกร้องกับเมนู “ไคเซนเมน” เป็นความที่สุด ของที่สุด ของความคุ้มและความอร่อยจากฮะจิบัง ราเมน  เครื่องแน่น จัดเต็มไปด้วยหน้าซีฟู้ด ไม่ว่าจะเป็น กุ้งตัวโตๆ นุ่มๆ เด้งๆ ที่แกะมาให้พร้อมทาน เนื้อเด้งมาก ปลาหมึกแห้งทอดกรอบ กรุบกรอบ มีกลิ่นหอมของรสชาติปลาหมึก รวมไปถึงหมูสับ ผักกาดแก้วสด และซอสไคเซนสุดเข้มข้น บอกเลยว่ากลมกล่อมมาก แอดลองคลุกแล้วกินกับเส้นกับหมูสับก็คือเดอะเบส เข้าถึงต้นตำรับสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ  ไคเซนเมน 128.- ไคเซนเมน เซ็ท 188.-  จะทานที่ร้าน หรือสั่งไปทานที่บ้านก็ได้เลย รอให้ทุกคนได้มาสัมผัสความอร่อยพร้อมกันแล้วที่นี่ที่เดียวที่ ฮะจิบัง ราเมน  พิกัด: เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต ชั้น 4 เวลาเปิด-ปิด: จันทร์ – ศุกร์ 11:00 – 21:00 น., เสาร์ อาทิตย์ 10:00 – 21:00 น. โทร: […]

Arr

September 23, 2022

เตี๋ยวเนื้อโอชา สายเนื้อถูกใจ ชิ้นใหญ่เต็มคำ รวมเมนูเนื้อไว้ที่นี่แล้วจ้า

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineจัดใหญ่จัดเต็มแบบเบิ้มๆ เน้นๆ ไปกับเมนูเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นหม้อไฟ เมนูเส้น หรือเมนูข้าว ก็ต้องที่นี่เลย “เตี๋ยวเนื้อโอชา” ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นสมุนไพรจีนแท้เปิดใหม่ พร้อมห้องแอร์ ที่ได้รวมสารพัดเนื้อ ทั้ง เนื้อใบพายออสเตรเลีย เนื้อเปื่อย เอ็นตุ๋น ไส้ตุ๋น เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของสายเนื้อตัวจริงๆ นอกจากนี้ทางร้านยังมีเนื้อหมูด้วยนะ เลือกกันได้เลย  เมนูที่นี่ก็มีหลากหลาย ทั้งเมนูก๋วยเตี๋ยวที่เราสามารถเลือกเนื้อในส่วนที่ชอบได้เลย เช่น ข้าวหน้าเนื้อพะโล้ เนื้ออบวุ้นเส้น ลวกจิ้มต่างๆ หรือเมนูทานเล่น ปอเปี๊ยะเนื้อชีส ปอเปี๊ยะวุ้นเส้น และ น้ำอัดลมวุ้น น้ำสมุนไพร ที่ปัจจุบันเริ่มหาทานยากแล้วแต่ที่ร้านนี้มี!!  เมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ ชุดเซตหม้อไฟ ที่รับประกันความฟินจากเครื่องเคียงที่ร้านให้มาแบบจัดเต็ม ฟินๆ กับเนื้อที่ละลายในปากและน้ำซุปที่แทบไม่ต้องแตะเครื่องปรุง เพราะซุปเขารสชาติดีเข้มข้นสุดๆ   ทางร้านตกแต่งได้สวยมาก หน้าร้านตกแต่งฟีลเหมือนเราย้อนเวลากลับไปนั่งทานในร้านก๋วยเตี๋ยวสมัยก่อน ข้างในมีห้องติดแอร์ด้วยนะ กินหม้อไฟได้แบบสบาย ร้านจะอยู่ทางผ่านสันทรายพอดี ติดข้างทางแวะทานได้ง่าย แนะนำให้แวะไปลองกันจ้า  พิกัด: อยู่ระหว่างแยกมีโชคกับแยกลิขิตวัน อยู่ติดกับชาบูรุ่งเรืองสาขาสันทราย เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 10:00 – 20:00 น. โทร: 098-656-8092 Facebook: […]

Arr

September 12, 2022