ซอยเล็ก ซอยน้อย ซอยได้บ่อย ซอยดีๆ – ชวนเดินเที่ยว ราชวิถี รู้ตัวอีกทีทะลุมูลเมือง

เอาจริงๆ ขนาดคูเมืองเชียงใหม่ถ้าดูเผินๆ ก็ไม่ได้กว้างใหญ่อะไรมากเลยนะ แต่ยังแปลกใจทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเดินสำรวจพื้นที่สี่เหลี่ยมแห่งนี้ ล่าสุดกับการเดินเรื่อยเปื่อยตัดซอยโน้น ออกซอยนี้ จนไปเจอเข้ากับซอยเล็กๆ ซอยหนึ่งในคูเมืองนี่แหละ เดินรอบแรกเริ่มไม่แน่ใจว่านี่เรากำลังอยู่ในเชียงใหม่รึเปล่า เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่ฝรั่งชาวแบ็คแพ็คเกอร์ มีคนต่างชาติ รวมถึงพี่ๆ จากจีนประปราย ด้วยความที่ถนนเส้นนี้แคบ และเล็ก มันเลยกลายเป็นเสน่ห์ ปนความแปลกใจว่า พื้นที่แค่นี้ มีร้านเท่ๆ รวมกันอยู่เยอะมากขนาดนี้เลยเหรอเจ๋งเลยอยากทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่นี่ พาเที่ยวแถวนี้ซะเลย และนี่คือการรวมเอาเหล่าร้านเด็ด ร้านดีที่อัดแน่นอยู่แทบจะทุกตารางนิ้ว ของถนนเล็กๆ ในคูเมืองที่อยากให้ไปตีสนิทกันในเร็ววันราชวิถี ถนนเส้นหนึ่งในบริเวณพื้นที่สี่เหลี่ยม ที่ชาวเชียงใหม่เรียกกันว่าคูเมือง ถูกซอยย่อยเป็น ราชวิถีซอย 1 ราชวิถีซอย 2 แถมมีเพื่อนบ้านเป็นถนนมูลเมืองที่อยู่ติดกันด้วย แนะนำให้หาที่จอดมอเตอร์ไซค์ด้านนอก แล้วเดินเท้าเข้าซอยนี้ เพราะด้วยขนาดร้าน พื้นที่ รวมถึงอารมณ์ที่คุณจะได้เวลาใช้สองเท้าเดิน จะรู้สึกประหนึ่งว่าเป็นนักท่องเที่ยว ที่มาจากต่างบ้านต่างเมืองจริงๆ มีร้านเซอร์ไพรส์ทุกร้อยเมตร พร้อมแล้ว เตรียมกล้องถ่ายรูป กระชับรองเท้า แล้วออกเดินกินลม ชมฝรั่ง //เอ้ยย ชมวิว กันเลยดีกว่า

– – – – – – – – – – – – – – –

1. Graph Café – กาแฟดีๆ อยู่นี่ไง

ร้านขวัญใจนักท่องเที่ยว และฮิปสเตอร์คอกาแฟชาวไทย ถึงแม้จะมีขนาดเล็กน่ารัก แต่ก็มีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการไม่ขาดสาย ร้านนี้มีกาแฟให้เลือกชิมหลากหลายรูปแบบ ทั้งร้อน, เย็น และ Cold Brew หรือจะเน้นสัมผัสใหม่ของการดื่มกาแฟด้วย Nitro Coffee ก็มีให้บริการเหมือนกัน ลูกเล่นการเสิร์ฟกาแฟแบบอัดไนโตรเข้าไป คล้ายการจิบเบียร์ แต่ให้รสที่นุ่มกว่า

ส่วนใครชอบดื่มร้อน เจ๋งแนะนำให้สั่ง Piccolo กาแฟแก้วเล็กๆ แต่รสชาติยิ่งใหญ่สุด รสชาติโดยรวมคล้ายลาเต้ แต่เข้มกว่ามากๆ จิบได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องเติมน้ำตาล แถมยังมี Cold Brew แบ่งใส่ขวดไว้ให้ซื้อกลับไปฟินที่บ้านอีกด้วย มีให้เลือกชิม 3 ชนิด 3 คาแร็กเตอร์รสชาติ ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของร้าน Graph Café อยู่ตรงที่เขาจะเปลี่ยนเมล็ดกาแฟไปเรื่อยๆ ทุก 3 เดือน เพื่อให้ลูกค้าได้รสใหม่ๆ อยู่เสมอ อย่างล่าสุดกาแฟที่ร้านจะหอมกลิ่นคาราเมลอ่อนๆ ได้อารมณ์การดื่มกาแฟไปอีกแบบ

Piccolo เมนูแนะนำของร้าน Graph หอม และเข้มข้นมากๆ กลมกล่อมโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลเลย

  • พิกัด : ถนนราชวิถีซอย 1 ร้านอยู่ตรงข้ามตู้ ATM ธนาคารกรุงศรี
  • เวลาเปิด : 09.00 – 17.00 น.
  • Facebook : facebook.com/graphcafe.chiangmai
  • Instagram : graphcafe

– – – – – – – – – – – – – – –

2. สมานมิตร – กาแฟแฮนด์เมด

มาร้านนี้ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอ ให้ดูตึกขนาด 2 ชั้น สีส้มๆไว้ สมานมิตรจะอยู่ตรงนั้นเลย ร้านขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ จัดวางโต๊ะไว้แบบพอดีๆ หน้าบาร์ 2 ตัว ข้างๆอีก 1 โต๊ะ พิเศษตรงมีชั้น 2 ของร้าน เป็นระเบียงแบบเปิดโล่งให้สั่งกาแฟขึ้นไปรื่นรมย์กันด้วย

กาแฟร้านนี้ถ้าบอกว่าเป็นกาแฟแฮนด์เมดก็คงไม่ผิดนัก เพราะเขาใช้เครื่องชงกาแฟแบบ Aeropress 100% กาแฟที่ได้จากการชงเครื่องชนิดนี้ จึงไม่ได้เข้มขมแบบสุดโต่ง แต่จะดึงเอาความหอมของตัวกาแฟออกมาได้ดีมากๆ จะชงทีบาริสต้าก็จะพิถีพิถันรินน้ำร้อน แล้วใช้แรงมือกดเอาความเข้มออกมาสร้างเป็นเครื่องดื่ม เมนูแนะนำของร้านที่มาเป็นต้องโดนคือ “สมานมิตร” ที่เลือกได้ทั้งร้อนและเย็น ซึ่งนอกจากความเข้มข้นของกาแฟแล้วยังมีกลิ่นหอมของมิ้นต์ ชินนามอน และกระวานด้วย แถมที่ร้านยังมี Cold Drip ใส่ขวดไว้ให้ซื้อกลับบ้าน ขนมอบเล็กๆ น้อยๆ และแมวหน้าตากวนโอ้ย คอยเป็นพนักงานต้อนรับของร้านด้วยนะเออ

หน้าตาเครื่อง Aeropress ที่สมานมิตรใช้ทำกาแฟ ดูเผินๆ นึกว่าเครื่องมือทดลองวิทยาศาสตร์
ลูกพี่ใหญ่ของร้านนี้ ที่ใครมาที่นี่ก็ต้องเจอพี่เขาคอยต้อนรับ

  • พิกัด : ถนนราชวิถีซอย 2
  • เวลาเปิด : 07.30 – 17.00 น.
  • โทร : 08 2389 9596
  • Instagram :samammitr.house

– – – – – – – – – – – – – – –

3. ชงเข้าเส้น – กาแฟไทย สไตล์เวียดนาม

ชงเข้าเส้นเป็นร้านเล็กๆ ให้บริการอยู่บนรถขนาดกำลังดี ความแปลกใหม่ที่เชิญให้เข้าไปลองคงเป็นสไตล์การชงกาแฟ ที่คุณบอยเจ้าของร้าน บอกว่าเป็นลักษณะที่เอามาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม โดยใช้ฟิลเตอร์แสตนเลสนำเข้าเป็นตัวกรอง ร้านจะบดกาแฟทับไปด้านบน เติมน้ำร้อน แล้วรอเวลาที่น้ำกาแฟจะหยดลงมาสู่แก้วเบื้องล่าง ด้วยวิธีการนี้จะทำให้ได้กาแฟที่เข้มข้น เพราะกว่าที่มันจะหยดมาแต่ละที น้ำร้อนก็ดึงเอารสชาติของกาแฟมาแบบเต็มสูบ


ฟิลเตอร์ตามแบบฉบับเวียดนาม ทำหน้าที่เป็นเครื่องชงกาแฟของร้านนี้

อยากลองเข้มๆ ก็สั่งเอสเพรสโซ่มาจิบได้เลยเพราะเขาทำเสิร์ฟกันแก้วต่อแก้ว หรือถ้าจะสั่งเป็นเครื่องดื่มเย็นมาก็ชิลล์ได้เหมือนกันนะ มั่นใจเรื่องคุณภาพได้ เพราะคุณบอยเจ้าของร้าน มีไร่กาแฟส่วนตัวอยู่ที่ดอยลังกา จ.ลำปาง กาแฟที่ผ่านมาถึงร้านนี้ จึงดูแลมาอย่างดีตั้งแต่ยังเป็นต้นเล็กๆ เลยทีเดียว

ลูกค้าที่มาชิม “ชงเข้าเส้น” จะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ เลย คนไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น เรียกได้ว่านานาชาติจริงๆ

  • พิกัด : ถนนมูลเมืองซอย 6 จากจุดตัดระหว่างราชวิถีซอย 2 เดินประมาณ 20 เมตร
  • เวลาเปิด : 09.00 – 19.30 น.
  • โทร : 08 4611 1074
  • Facebook : facebook.com/ChongKhaoSen

– – – – – – – – – – – – – – –

4. Rendee Design – กิน อยู่ ใช้  สไตล์ออร์แกนิก

คุณหงส์และภรรยาชาวญี่ปุ่น พร้อมลูกสาววัยกำลังน่าร้ากกก

อีกหนึ่งร้านชิค ที่ซ่อนตัวอยู่ย่านนี้ เพราะ Rendee Design เป็นเหมือนจุดนัดพบของคนญี่ปุ่นที่อยู่ในเชียงใหม่ นำโดยคุณหงษ์เจ้าของร้านผู้เป็นทูตกระชับสัมพันธไมตรีกับชาวญี่ปุ่น โดยมีลูกสาวตัวน้อยเป็นหลักฐาน ในร้านเราได้เห็นกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นผ่านเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้เล็กๆน้อยๆ รวมทั้งเครื่องดื่มอย่างกาแฟออร์แกนิก และน้ำบ๊วยที่หาทานที่ไหนได้ยากด้วย เพราะคุณหงส์จะชอบเอาสินค้าจากกลุ่มเพื่อนชาวญี่ปุ่นมาขายในร้าน ยกตัวอย่างเนื้อบ๊วยเข้มข้นในขวดแก้วเล็กๆ  อยากทานเมื่อไรก็เอาไปละลายน้ำร้อน เปรี้ยวอมหวาน ที่ร้านเลยมีเมนู บ๊วยโซดาให้ชิม เจ๋งชิมมาเรียบร้อย ชื่นใจสุดๆ ไปเลย นั่งจิบเครื่องดื่มไปพลาง เลือกซื้อของใช้ไปด้วย เพลินมากๆ

หนึ่งในสินค้าที่มีขายเฉพาะที่ร้านก็คือ เนื้อบ๊วยกระปุกนี้ คนญี่ปุ่นรวมกลุ่มกันผลิต โดยรับบ๊วยมาจากเผ่าปกาเกอะญอ เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้านด้วยนะ 

ของในร้าน Rendee Design ส่วนใหญ่ จะเป็นงานแฮนด์เมด สินค้าออร์แกนิกจากคนญี่ปุ่น รวมถึงผลผลิตจำพวกของกินของใช้ ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ด้วยนะ

  • พิกัด : ถนนมูลเมืองซอย 6 จากจุดตัดระหว่างราชวิถีซอย 2 เดินประมาณ 30 เมตร 
  • เวลาเปิด : 10.00 – 19.00 น.
  • โทร : 08 8269 5802
  • Facebook :facebook.com/RendeeDesign

– – – – – – – – – – – – – – –

5. Rainbow Water – จิวเวลรี่หินแล้วฟินกับผ้าใยกัญชง

  • พิกัด : ถนนมูลเมืองซอย 6 จากจุดตัดระหว่างราชวิถีซอย 2 เดินประมาณ 30 เมตร 
  • เวลาเปิด : 10.00 – 19.00 น.
  • โทร : 08 8269 5802
  • Facebook :facebook.com/RainbowWaterChiangmai
สินค้าภายในร้านมีครบทั้งเสื้อผ้า ของใช้เล็กๆ น้อยๆ หมวก กระเป๋า ส่วนใหญ่ทำงานผ้าฝ้าย และผ้าใยกัญชง

Rainbow Water ร้านนี้กำแพงอยู่ติดกับร้าน Rendee Design เลยนะ เดินข้ามมาประมาณ 3 ก้าวถึงเลย รวบรวมของใช้จำพวกเสื้อผ้า ดีไซน์แบบมินิมอล การตัดเย็บแบบพิถีพิถัน และใช้เนื้อผ้า รวมทั้งวัสดุที่มาจากธรรมชาติเป็นหลัก ทั้งผ้าใยกัญชง ผ้าฝ้าย มีหมดทั้งเสื้อคลุม กางเกง ผ้าปิดปากปิดจมูก ยาวไปจึงชุดชั้นใน ที่ดูท่าจะใส่สบายมากๆ เพราะเจ้าของแบรนด์ชาวญี่ปุ่น เป็นผู้ออกแบบสินค้าเกือบทุกชิ้นในร้าน แถมด้านในยังมีจิวเวลรี่หินสวยๆ อีกเพียบให้เลือกได้มิกซ์แอนด์แมทซ์ สาวๆ มาร้านนี้ร้านเดียว ได้ครบสำหรับออกงานชิคๆคูลๆ แน่นอน ตอนท้ายพี่เจ้าของร้านเขาบอกมาด้วยนะว่าสินค้าในร้านแต่ละชิ้น หมดแล้วหมดเลย ออกแบบมาเรื่อยๆ ถ้าชอบก็ซื้อเลยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

– – – – – – – – – – – – – – –

6. 18 Terrace Food & Beverage – ผัดไท แต่สูตรจากออสเตรเลีย

เกสท์เฮ้าส์ขนาดอบอุ่น ตรงจุดตัดระหว่างมูลเมืองซอย 6 และราชวิถีซอย 2 แบบพอดิบพอดีร้านนี้ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาได้สักพักแล้ว เพราะเท่าที่เห็นนอกจากห้องพัก ร้านอาหาร และบริการทัวร์ 18 Terrace ยังมีสวนหย่อมขนาดเล็ก และระเบียงด้านบนให้สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ ขึ้นไปนั่งกินลม ชมฝรั่งกันอีกด้วย คุณหน่อยเจ้าของเกสท์เฮ้าส์บอกว่า ลูกค้าเกือบ 100% ของที่นี่เป็นคนต่างชาติ เมนูอาหาร เครื่องดื่ม รวมทั้งที่พักก็เลยถูกคิดค้นมาให้เข้ากับกลุ่มลูกค้า พระเอกหลักของร้านคงเป็น ผัดไท ที่ชื่อก็ดูไท้ ไทยแล้ว แต่สูตรนี่โดนเอาไปพัฒนาที่ออสเตรเลียมาแล้วนะ เนื่องจากสามีของคุณหน่อยเคยทำงานอยู่ที่โน่นกว่า 20 ปี มีร้านอาหารไทยที่โน่นกว่าอีก 4 สาขา รสชาติผัดไท ที่ฝรั่งกินจะเป็นยังไง มาชิมได้ที่ร้านนี้เลย นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ อีกเพียบ ทั้งมะมะม่วงปั่น มูสลี่โยเกิร์ตผลไม้สด ข้าวผัด ใครอยากทดลองทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบเต็มรูปแบบ มาที่นี่รับรองครบทุกอารมณ์แน่นอน เผลอๆ ได้เพื่อนกลับไปด้วยก็ไม่รู้นะ 


ผัดไทร้านนี้ได้สูตรน้ำซอสมาจากออสเตรเลีย เลือกได้หมดทั้งหมู ทะเล และมังสวิรัติ เริ่มต้นแค่ 49 บาทเท่านั้น

  • พิกัด : ถนนมูลเมืองซอย 6 ร้านอยู่ตรงจุดตัดระหว่างราชวิถีซอย 2
  • เวลาเปิด : 07.00 – 22.00 น.
  • โทร : 09 3131 8155
  • Website : www.18terrace.com

– – – – – – – – – – – – – – –

7. Nanairo – เที่ยวบ้านศิลปิน

พื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เจ๋งอธิบายอย่างนี้แล้วกันเนอะ ลองจินตนาการว่า Nanairo (นานาฮิโร๊ะ) เป็นเหมือนห้างๆ หนึ่ง ซึ่งรวบรวมร้านขายของ ร้านอาหาร และสตูดิโอเจ๋งๆ ไว้ในพื้นที่เดียวกัน บ้านขนาด 2 ชั้น แบ่งพื้นที่ชัดเจนออกเป็น 3 ส่วน โดยชั้นบน ที่เป็นร้านจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ moonhutte และ Traps สองแบรนด์จากดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ภายในร้านเราเลยได้เห็นเสื้อผ้าแบบลิมิเต็ด หมดแล้วหมดเลย มีน้อยชิ้น แต่หลากหลายแบบให้ได้เลือกซื้อกัน แถมมีของใช้ เครื่องประดับจากแดนไกล ที่เวลาเจ้าของเดินทางไปไหนก็มักจะขนติดไม้ติดมือกลับมาขายด้วยเสมอ สินค้าพวกนี้ก็เลยหมดแล้ว หมดเลยเช่นกัน เดินเลือกเพลินมากๆ เพราะทั้งบรรยากาศ สถานที่ การแต่งร้าน เหมือนเราเดินไปเลือกซื้อของในบ้านเพื่อนสนิทเลยแหละ

ชั้นบนของ Nanairo มีสินค้าแบรนด์ moonhutte และ Traps ให้เลือกซื้อด้วย ใครชอบแนวนี้แนะนำเลย

ตัวอย่างสบู่ที่มาจากทิเบต ตอนเจ้าของร้านไปเที่ยวแล้วหิ้วกลับมา มีไม่กี่ชิ้น หมดแล้วหมดเลยนะจ๊ะ

นอกจากร้านด้านบนแล้ว ด้านล่างยังบรรจุไปด้วยร้านเท่ๆเพียบ ทั้งร้านขายเซรามิกแฮนด์เมด ชื่อ “ถ้วย ถัง กะมัง หม้อ” ของชิ้นเล็กๆ น่ารัก  ร้านอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน มีแก้วน้ำ กาน้ำ แจกัน และของน่ารักๆ ทำมืออีกเพียบ ข้างๆ กันเป็นสตูดิโอของศิลปินต่างชาติ ด้านนอกโซนโอเพ่นแอร์ จะมีร้าน Norma คอยให้บริการดับความหิว ด้วยสลัด แซนด์วิซ และเครื่องดื่มสดชื่นๆ ไว้ดับร้อนด้วยนะจ๊ะ เรียกได้ว่า มาครบที่เดียว ได้ของฝาก อิ่มท้อง แถมได้ชมงานศิลปะจากศิลปินตัวเป็นๆ อีกด้วย

สินค้าจากร้าน “ถ้วย ถัง กะมัง หม้อ” เหมือนเดินชมงานศิลปะขนาดย่อมๆ กลางเมืองเลยแหละ

บรรยากาศภายนอกของ Nanairo ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ แดดไม่แรงมาก นั่งพัก แล้วเดินเที่ยวต่อได้สบายๆ 

  • พิกัด : ถนนมูลเมืองซอย 6 ร้านอยู่ตรงจุดตัดระหว่างราชวิถีซอย 2
  • เวลาเปิด : 07.00 – 22.00 น.
  • โทร : 08 6908 3776
  • Facebook : facebook.com/moonhutte-222500341103232

– – – – – – – – – – – – – – –

ท่านใดมีที่กิน ดื่ม เที่ยว บนถนนราชวิถีหรือมูลเมืองเจ๋งๆ แนะนำเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้ได้รู้ตามช่องด้านล่าง

Relate Posts :