
หม้อ ชื่อนี้ทุกคนต้องมีติดบ้าน ติดครัวกันอยู่แล้ว ถ้าเปรียบเป็นยาก็คงเป็นยาสามัญประจำบ้าน ขาดไม่ได้เลย เพราะเป็นสิ่งที่สร้างสารพัดประโยชน์ ให้กับการทำอาหาร ทั้ง แกง ซุป ต้ม ก็ทำได้หมด แต่หม้อไม่ได้มีแบบเดียวนะ มีหลายแบบเลย คนที่ทำอาหารบ่อยๆ หรือ คนที่เรียนเกี่ยวกับการทำอาหารมา ก็อาจจะพอรู้มาบ้าง แต่แม่บ้านมือใหม่หลาย ๆ คน ก็อาจจะยังไม่รู้ ว่าแต่ละแบบใช้ต่างกันยังไง เหมาะกับการทำอาหารแบบไหน เมนูไหน อย่าเสียเวลารีรอกันเลย วันนี้เราเลยจะมารีวิวหม้อให้ฟังกัน!
1. หม้ออลูมิเนียม

ข้อดีของหม้ออลูมิเนียม คือ น้ำหนักเบา สามารนำความร้อนได้ดี ทำให้อาหารสุกเร็ว เพราะว่าตัวหม้อไม่ได้หนามาก สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป เหมาะสำหรับการทำอาหารทุกเมนู ถ้าใครอยากให้น้ำเดือดเร็ว ๆ แนะนำให้ใช้เลย รวมถึงราคาไม่แพงเลย หลาย ๆ บ้านที่อาจจะอยากทำอาหารด้วยเตาไฟธรรมดาส่วนใหญ่ จะใช้หม้อที่เป็นอลูเนียมเนี่ยแหละ ต่อให้ก้นหม้อจะดำก็ไม่เสียดาย เพราะราคาถูกกว่าหม้อที่เป็นสแตนเลส ถึง 4 เท่า ส่วนข้อเสียด้วยความที่มีราคาถูก วัสดุที่นำมาทำอาจจะไม่แข็งแรงมาก เวลาใช้งานอาจจะมีเบี้ยวบ้าง บุบบ้าง ใช้งานไปนาน ๆ ด้ามจับก็อาจจะหลุดได้
ซื้อหม้ออลูมิเนียมราคาถูก คลิกเลย!!
2. หม้อสแตนเลส

ปกติหม้อสแตนเลสทุกบ้านก็ต้องมีติดบ้านไว้อยู่แล้ว เพราะเป็นหม้อที่ใช้งานได้กับทุกเมนู ราคาไม่สูง หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ที่สำคัญคือทนทานต่อการใช้งาน ถึงจะผ่านศึกในการทำอาหารกี่เมนูก็ไม่หวั่น ไม่เป็นสนิม หม้อจะมีความเงา และทำความสะอาดได้ง่าย ตามท้องตลาดก็อาจจะมีหลายยี่ห้อที่ดีไซน์แตกต่างกันออกไป ใครชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้น แต่ก็ควรเลือกซื้อยี่ห้องที่ดูน่าเชื่อถือหน่อย แต่ถึงจะให้ดียังไงแต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่ดี เพราะอาหารติดงานกว่าหม้อแบบอื่น แล้วถ้าเป็นอาหารประเภทที่มีรสเปรี้ยว อย่างเช่น ยำ ต้มยำ ที่มีส่วนผสมของมะนาว ก็ไม่ควรที่จะทำในหม้อสแตนเลสนะ เพราะมะนาวมีกรดก็อาจจะทำให้หม้อบางลง เสื่อมคุณภาพลงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ซื้อหม้อสแตนเลสตราม้าลาย แถมฟรีทัพพี คลิกเลย!!
3. หม้อเคลือบ

ตัวหม้อจะเคลือบด้วยผงแก้วนำสี แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะอันตรายนะ เพราะมันเป็นสารที่ไม่อันตรายต่อร่างกาย ไม่ว่าจะทำเมนูไหนก็ทำได้หมดทั้ง ต้ม ผัด แกง ทอด อุ่น หุง ต้ม นึ่ง แล้วที่สำคัญไม่ติดหม้อด้วย แถมยังทำความสะอาดได้ง่าย ถ้าจะทำเมนูต่อไปก็ล้างน้ำแล้วใช้ทิชชูเช็ดได้เลย ใช้ได้ทั้งเตาแก๊ส และเตาไฟฟ้าเลย แต่เวลาเราจะใช้ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังด้วย อย่าทำให้หม้อเคลือบหล่น เพราะอาจจะทำให้ตัวเคลือบด้านนอกหลุดออกได้ ถ้ามีตัวเคลือบอันไหนหลุดออกมันก็จะหลุดออกได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมันไม่ได้หลุดง่ายขนาดนั้น
ซื้อหม้อเคลือบ 2 หู หม้ออินาเมล ขนาด 22 cm มีสีเขียว สีชมพู คลิกเลย!!
4. หม้อเหล็ก

ใครที่ถามหาความทนทานก็หนีไม่พ้นหม้อเหล็ก ขึ้นชื่อว่าเหล็กแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องความทน รูปทรงไม่มีต่างไปจากเดิมที่ซื้อมาแน่นนอน มีสารอีนาเมลซึ่งจะเป็นตัวนำความร้อนทำให้ร้อนเร็วขึ้น โดยตัวสารอีนาเมลไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายด้วย แถมยังจะช่วยให้อาหารชุ่มขึ้น เมนูไหนที่อาจจะมีขั้นตอนในการทำหลายขั้นตอน เช่น อาหารจำพวกที่ต้องเอาขึ้นเตาก่อนแล้วค่อยเอาไปอบ ตัวนี้เหมาะเลย ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนภาชนะก่อนเข้าเตาอบให้ยุ่งยาก แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันตรงที่น้ำหนักจะเยอะกว่าหม้อทั่วไป อาจจะเลือกขนาดหม้อให้พอเหมาะไม่ต้องเอาขนาดใหญ่มาก ใครที่เข้าครัวบ่อยๆ มีติดครัวไว้ก็ดี แต่สำหรับใครที่นานๆ ครั้งทำกับข้าวที เราก็ไม่แนะนำ เพราะถ้าไม่ค่อยได้ใช้งานก็จะทำให้เกิดสนิมได้
ซื้อหม้อเหล็กแข็งแรงทนทาน แถมฟรีฝาปิดหม้อไม้ คลิกเลย!!
5. หม้อเทฟลอน

เทฟลอนไม่ใช่มีแค่ที่เป็นกระทะเท่านั้น มีแบบที่เป็นหม้อด้วย เทฟลอนเป็นสารที่เคลือบทำให้อาหารไม่ติดหม้อ ทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับเมนูที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน อาจจะมีอาหารติดเล็กน้อย แต่ก็ทำความสะอาดได้ง่าย ขึ้นอยู่กับระดับคุณภาพของเทฟลอนที่นำมาใช้ด้วย บางยี่ห้อก็อาจจะราคาสูงแต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการใช้งาน หม้อเทฟเลอนเมื่อใช้งานไปนานๆ ตัวเคลือบก็อาจจะหลุดออกได้ง่ายปนกับอาหารเราได้ แต่ก็ไม่ได้อันตรายต่อร่างกายตามข่าวที่ออกมา หากรู้วิธีการทำที่ถูกต้อง
ซื้อหม้อเทฟลอน ทำอาหารง่ายไม่ติดหม้อ คลิกเลย!!
6. หม้อแก้วทนความร้อน

หม้อแก้วเหมาะกับการทำอาหารทุกชนิด โดยเฉพาประเภทน้ำซุป ที่ต้องการเห็นความใสของน้ำซุป ใครที่ต้องการความสวยงามตอนทำอาหารก็ต้องหม้อแก้วทนความร้อนค่ะ สามารถใช้กับเตาได้ทุกประเภท ยกเว้นเตาที่เป็นแม่เหล็กไฟฟ้า ไม่ดูดสี และดูดกลิ่นของอาหารที่เราทำ ทำให้รสชาติของอาหารไม่เพี้ยน ทนความร้อนได้ดี แถมยังดีต่อสุขภาพ เพราะไม่มีสารเคลือบเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ ส่วนข้อเสียถึงจะทำความสะอาดได้ง่าย แต่ก็ต้องมีความระมัดระวังในการล้าง เพราะวัสดุทำมาจากแก้ว หากซุ่มซ่ามก็อาจจะแตกได้ง่าย น้ำหนักก็ถือว่าค่อนข้างมีน้ำหนัก และราคาสูง แต่ถ้าไม่ทำแตกก่อนก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคา
ซื้อหม้อใส ทนความร้อน มองเห็นซุปได้ คลิกเลย!!
7. หม้ออัดแรงดัน

เหมาะสำหรับการตุ๋นอาหารที่จะต้องใช้เวลานาน เช่น เนื้อตุ๋น ขาหมูตุ๋น แต่การใช้หม้ออัดแรงดันจะทำประหยัดเวลาได้อย่างมาก อาหารที่ทำมาจากหม้ออัดแรงดันจะสุกง่าย และเปื่อยเร็ว รสชาติก็แทบไม่ต่างจากการตุ๋น แต่คนที่จะใช้หม้ออัดแรงดันอาจจะต้องศึกษาวิธีการใช้หม้อแบบละเอียด เพราะค่อนข้างใช้งานยาก แต่ทุกวันนี้หลาย ๆ ยี่ห้อก็พัฒนาให้มีการใช้งานที่ง่ายมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
ซื้อหม้ออัดแรงดัน ช่วยประหยัดเวลาทำอาหาร คลิกเลย!!
8. หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์

คุณแม่บ้านที่ต้องการประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเฝ้าเวลาทำอาหาร เพราะหม้อไฟฟ้าสามารถตั้งเวลาในการทำอาหาร และสามารถกำหนดอุณหภูมิที่ต้องการในการทำอาหาร แถมยังมีปุ่มฟังชั่นให้เลือกใช้งานที่หลากหลาย ทั้ง ต้ม อุ่น หุง นึ่ง ก็ทำได้หมด บางยี่ห้อสามารเก็บความร้อนได้นานถึง 6 ชั่วโมงเลย ราคาก็ขึ้นอยู่กับฟังชั่นและยี่ห้อด้วย
ซื้อหม้อไฟฟ้ามินิ ง่าย ประหยัดเวลา คลิกเลย!!
การดูแลรักษา
- หากมีคราบอาหารติดหม้อ แนะนำว่าอย่าใช้ฝอยในการขัดหม้อ เพราะจะทำให้หม้อเป็นรอย ควรแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วใช้น้ำยาล้างจาน และทำความสะอาดด้วยฟองน้ำ
- หากเป็นหม้อไหม้ควรใช้น้ำอุ่นแช่ทิ้งไว้ 1-3 ชั่วโมง แล้วค่อยทำความสะอาด ถ้าทำความสะอาดไม่หมดให้แช่ด้วยผงฟูและเกลือจะทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
- การดูแลหม้อให้ใหม่อยู่ตลอด ควรใช้ผงฟูผสมน้ำแล้วเช็ดทำความสะอาด
เป็นไงบ้างคะ ? อ่านมาถึงตอนนี้แล้วพอเข้าใจการใช้งาน และความแตกต่างของหม้อ แต่ละแบบกันบ้างมั้ยเอ่ยยย ใครมีอะไรเพิ่มเติมบอกได้เลยนะคะ เอามาแชร์กัน หวังว่าจะเป็นปะโยชน์เล็ก ๆ น้อย ให้กับคนที่ชอบทำอาหาร หรือถ้าไม่ชอบทำก็อาจจะชอบซื้อก็ได้ค่ะ ไม่ว่ากัน สำหรับใครที่ชอบทำอาหาร อย่าลืมอ่านบทความเกี่ยวกับการทำอาหาร ของรีวิเชียงใหม่กันด้วยนะคะ มีบทความที่น่าสนใจอีกเยอะเลย
- กระทะปิ้งย่างไฟฟ้า 10 แบบ มาให้ช้อป รวบตึงมาให้โดนใจชัวร์
- เครื่องปรุงอาหารญี่ปุ่น หาซื้อง่าย ปรุงได้ที่บ้าน Japanese Food Lover ห้ามพลาด
- หม้อทอดไร้น้ำมัน กักตัว 14 วันฟังทางนี้ แนะนำ อีก 1 ทางเลือกเครื่องใช้ในครัว