บันทึกบ้านโป่งขาวกับเพื่อนชาวอุทัยธานี

วันนี้ผมได้มีโอกาสไปฝึกงานที่หมู่บ้านโป่งขาว อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ กับเพื่อนผมที่มาจากอุทัยฯ เราไปที่หมู่บ้านเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน และหลักๆคือการไปช่วยเขาเกี่ยวข้าวและงานต่างๆที่นั่นนะครับ


DAY 1 จากเชียงใหม่ไปยังบ้านโป่งขาว (19/11/20)

วันนี้ผมตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียตัวเเละทำทุกอย่างให้เรียบร้อย(วันนี้ตื่นเต้นแปลกๆ สงสัยน่าจะอยากเจอเพื่อนแน่ๆเลยล่ะครับ) วันนี้เพื่อนผมได้มารับผมที่บ้าน ประมาณ 7AM เราได้ออกไปกินข้าวเช้าแถวๆแม่ริมและไปซื้อเสบียงกันที่ makro กัน ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังบ้านโป่งขาว วันนี้มี ผม เพื่อนผม พ่อแม่เพื่อนผม และ น้าของเพื่อนผม (หรือเปล่านะ?) ถ้าผิดขอโทษด้วยนะครับ วันนี้เราเดินทางมาทางถนนเส้นไปปาย ระหว่างทางเราก็คุยกันไปมาบนรถ ถึงเรื่องต่างๆ ว่าแบบ เป็นไงบ้างครับที่ผ่านมาเป็นไงบ้างครับประมาณนี้ครับ (จริงๆก็คุยไปเรื่อยนั่นแหละครับผม) 

ผมดีใจที่ได้เจอทุกคนที่มา เราได้เเวะพักกันที่ร้านกาแฟแม่มดกัน ก่อนที่จะออกเดินทางกันต่อ ระหว่างทางมีเมารถนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไรครับ ได้คุยกันในรถก็สนุกมากเลยล่ะครับ

ภาพตอนที่เราจอดพักที่ร้านกาแฟแม่มดครับผม (ใครถ่ายผมไว้เนี่ย?)

 เมื่อไปถึงบ้านโป่งขาว ที่นั่นเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวปกากะญอ  ผมดีใจที่ได้ไปเลยเพราะไม่ค่อยได้เห็นอะไรแบบนี้มากในเมืองเชียงใหม่มากเท่าไหร่ครับ เราได้ช่วยกันขนของที่จะเอาไปให้ชาวบ้านในวันสุดท้ายกันก่อน และถึงจะได้พัก ก่อนที่จะไปลุยกันต่อครับ

ลำธารเล็กๆในหมู่บ้านครับผม

 เราได้เดินทางไปที่นา (แต่เขาเกี่ยวเสร็จเเล้ว) เราเลยได้ไปช่วยเขาฟาดข้าวกันแทนครับ ระหว่างทางที่เราไปนาผมเห็นว่าที่นี่มีน้องหมาเยอะมาก และ น่ารักมาก เราเดินเท้าไปในรอบแรกซึ้งก็ใช้เวลาอยู่กว่าจะไปถึง แต่มันสนุกดีครับ

น้องๆ น่ารักกันมากๆเลยล่ะครับ น่าเก็บไปเลี้ยงนะครับเนี่ย ^^
อันนี้เป็นภาพทางเดินไปยังนาครับผม (ไกลๆขอบอกไว้ก่อนเลยครับ)

 เมื่อเราไปถึง เราเลยไปช่วยฟาดข้าวและขนข้าวขึ้นรถ มีอุบัติเหตุนิดหน่อยแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีครับ ผมได้ไปเจออะไรใหม่ๆเยอะเลย ในการฟาดข้าวช่วงแรกๆผมทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะครับ แต่พอทำไปทำมาชักจะสนุกเเล้วสิ จากนั้นก็ต้องช่วยขนข้าวไปวางไว้ด้วยกัน (รู้สึกผิดเลยที่ผมเเรงน้อย) แต่ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับผม แต่ก็เหนื่อยและคันเหมือนกันครับ ผมถือว่าเป็นมันคือ บททดสอบ ตัวผมเองด้วยครับผม เป็นการทำงานและวันแรกที่ดีเลยล่ะครับ

ใครน้า ใช่แล้วภาพผมฟาดข้าวอยู่ครับ ใครเป็นคนแอบถ่ายเนี่ย?

 พอเริ่มตกเย็นเราก็เดินทางไปกับรถขนข้าว+ฟาง (มั้งนะไม่แน่ใจครับ) ไปยังที่พัก เรามีต้องเดินต่ออีกนิดหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ เมื่อถึงที่พักแล้วทุกคนก็ช่วยกันขนของที่เหลือกันและเริ่มทำอาหารเย็นกันครับ

ภาพนาที่บ้านโปงขาวครับผม (เขาเกี่ยวกันเสร็จแล้วอ่ะ เสียดายเลยอดเกี่ยวข้าวเลยครับ)

ผมเพิ่มรู้เลยว่าบนดอยไม่มียุงสักตัวเลย เพราะอากาศน่าจะเย็น ซึ่งอากาศตอนกลางคืนถึงเช้าก็เย็นจริงๆด้วย เมื่อขนของกันเสร็จผมจึงรีบไปช่วยกางเต้นท์กันครับ หลังจากที่ผมทำทุกอย่างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาที่จะได้จดบันทึกและพักพ่อนแล้วล่ะครับ สักพักอาหารเย็นก็ได้ที่แล้ว ก็ถึงเวลาแล้วที่จะได้กินข้าวเย็นกันครับผม


ภาพตอนที่เราเดินกลับที่พักกันครับผม อ่าอันนี้ผมรู้ใครถ่าย อิๆ

 หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จ ผมก็มีหน้าที่ต้องล้างจานและอุปกรณ์ในการทำอาหารกับเพื่อนผม ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดเลย ผมว่าผมชินกับการทำหน้าที่เหล่านี้ไปแล้วแน่ๆเลย หลังจากนั้นผมก็ได้มีเวลามานั่งคุยกันกับคนที่ไปด้วยและคนปกากะญอ เรานั้งคุยกันที่รอบกองไฟ ไม่รู้นะแต่คุยแล้วสนุกดีนะครับ และไม่ดึกมากนักเราก็แยกย้ายเข้านอนกันครับ

ภาพเตาทำอาหารของคนปกากะญอครับ จริงๆก็เป็นกองไฟได้เลยล่ะครับ

DAY 2 วันแห่ง บทเรียน และ เพื่อน (20/11/20)

วันนี้ผมตื่นประมาณ6โมงเช้าครับ (น่าจะเพราะตื่นเต้นแน่ๆเลย) ซึ่งอากาศก็เย็นจริงๆด้วย (เย็นมากกกกกก) เราก็กินข้าวเช้ากัน ก่อนที่จะออกเดินไปยังนาอีกครั้ง เช้านี้เป็นอาหารง่ายๆ และอากาศก็เย็นเอามากๆเลย ในตอนเช้านะครับหลังจากที่เรากินข้าวกันเสร็จก็ได้เวลาแล้วที่จะออกเดินทางกันละครับผม

ภาพอาหารเช้าที่แสนอร่อยครับผม (มันอร่อยจริงๆนะ ไม่ได้อวยหรืออะไรเลยครับ)

เมื่อไปถึงนาเราก็ไปยังศาลาเล็กๆและอยู่ที่นั่นกัน ผมได้ไปนั่งวาดรูปที่นั่นและฟังผู้ใหญ่คุยกัน ส่วนเพื่อนผมก็ออกไปถ่ายรูปที่นา ผมเห็นอยู่ไกลๆ น่าจะดูตั้งใจมากๆเลยล่ะครับ 

 พอถึงตอนเที่ยงเราก็กินข้าวกัน (เป็นเมื้อที่อร่อยเลยล่ะครับ) ผมเพิ่งรู้ว่าผมชอบเวลาที่ได้กินข้าวกับเพื่อนและคนแปลกหน้าโดยที่ไม่รู้ตัวเลย (แต่จริงๆแล้วชอบทำอะไรคนเดียวครับ) ผมมีความสุขมากเลยที่ได้มาในครั้งนี้และหวังว่าจะมีโอกาศแบบนี้อีกมากเลยล่ะครับ >< 

เป็นแก้วนำ้ที่ สุดยอดเลยครับคนที่ทำมันขึ้นมาได้

หลังจากที่เรากินข้าวเที่ยงกันเสร็จเราก็จะเดินทางไปยังสวนของน้ากุ๊กไก่กัน เมื่อเราไปถึงเราต้องเดินเข้าไปในป่าต่ออีกนิดหน่อยถึงจะไปถึงสวนด้านใน เมื่อเราเดินทางไปสักพักผมรู้สึกว่ามัน

เป็นสวนที่ต้องผ่านหลายอย่างมากเลยครับ ขึ้นเขาลงนำ้แต่ก็สนุกมากเลยครับ มันทำให้เข้าใจว่ากว่าจะไปหรือทำอะไรก็ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย มีเจ็บนิดหน่อยครับแต่สนุกดี เมื่อเราเข้าไปเเล้ว เป็นที่ที่อากาศดีมาก มีลมเย็นๆพัดมาเป็นบางที เราเดินไปและกลับ แค่นี้ไม่รู้ทำไมแต่ผมรู้สึกว่าเราเดินเยอะมากเลยล่ะครับ ผมว่ามันคุ้มค่ามากเลยครับที่ได้มาสวนนี้

ภาพสวนที่เราไปครับผม
ภาพสวนเหมือนกันครับผม แต่อันนี้เราเข้ามาลึกเเล้วครับผม

ก่อนที่จะไปยัง วัดป่าต้นน้ำ บ้านห้วยฮ่าง และที่นั่นมีบ่อปลาด้วย (ใหญ่มากกกกกก) โดยส่วนตัวผมเป็นคนไม่ชอบจับปลามากนักผมเลยกลัวๆที่จะไปให้อาหาร แต่หลังจากที่ได้คุยและได้คำแนะนำจากเพื่อนและเเม่ของเพื่อน ผมก็เริ่มที่อยากจะจับปลาซะแล้วสิ  โดนตัวปลาหนึ่งที ก็กลัวนิดหน่อยแต่ก็รู้สึกดีแปลกๆแหะ ผมบอกกับตัวเองว่า ฉันเอาชนะความกลัวนี้ได้แล้วล่ะ ผมดีใจมากเลยครัผม 

หลังจากนั้นเราก็ไปยังร้านของ พ๊ะตี ทองดี ตุ๊โพ (พ๊ะตีแปลว่าลุงในภาษาปกากะญอ) แกได้เล่นดนตรีและพูดถึงเรื่องไร่หมุนเวียนและอื่นๆอีกมากมาย ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ผมจะกลับไปหาแกอีกแน่ๆ แกตอบหลายอย่างที่ผมแอบสงสัยในใจไว้ได้ด้วย ไว้มีโอกาศอีกผมก็อยากไปหาแกมากเลย


 พอออกมาจากร้อนก็มืดซะแล้ว เราเลยนั่งรถกลับไปยังที่พักและไปกินข้าวเย็นที่บ้านน้ากุ๊กไก่กัน อาหารเย็นนี้เป็นอาหารพื้นบ้านของคนที่นี่ซึ่งอร่อยมากๆขอบอกว่ามากๆ เพราะไม่เคยกินมากก่อนเลย และจากนั้นเราก็ไปยังที่พักกัน วันนี้เป็นคืนสุดท้ายผมเลยเล่นไวโอลินให้ทุกคนได้ฟัง  

และได้เล่นบอร์ดเกม D&D กับเพื่อนและน้าของเพื่อน รู้สึกดีที่ได้เป็น DM ถึงจะล้มๆแล้งๆไปหน่อยแต่ก็สนุกมากเลยละครับ  เมื่อเล่นเสร็จเราก็เเยกย้ายกันเข้านอนครับผม ><


DAY 3 วันสุดท้าย และ ขอบคุณมากเลยนะครับ >< (21/11/20)

 วันนี้ผมตื่นมาตั้งแต่ตี5เพื่อมาเก็บของ ของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะออกไปช่วยคนอื่นๆ เช้านี้เราได้ไปเดินให้ของกับคนในหมู่บ้านกัน (คนในหมู่บ้านใจดีทุกคนเลยครับ) สนุกมากเลยครับ 

ภาพบ้านที่พวกเราได้ไปให้ข้าวของกับชาวบ้านครับผม จริงๆให้มากกว่า1หลังนะครับ

และจากนั้นเราก็มากินข้าวเช้ากัน วันนี้เขาขอให้ผมพาสวดก่อนกินข้าว (ผมเป็นคริสต์ครับ) ส่วนตัวผมแล้วจริงๆผมว่าไม่ว่าจะศาสนาอะไรก็คล้ายๆกันครับ (อย่า Bully ผมกันนะครับ) บรรยกาศช่วงเช้าไม่ได้แย่อะไรเลย ผมชอบมากเลยตอนที่กินข้าวด้วยกัน มันทำให้ผมได้อยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มากกว่าที่จะต้องไปคิดเรื่องอื่นๆ(ส่วนตัวแล้วเป็นคยชอบคิดเยอะไม่รู้ทำไมนะครับ) และอากาศก็เย็นเหมือนเดิมเลยครับ 

สภาพที่พักของพวกเราครับผม เป็นอย่างเห็นเลยครับ มันเป็นอะไรที่สุดยอดไปเลครับ

หลังจากที่เราทำทุกอย่างเรียบร้อยเเล้ว(รวมถึงเก็บของเเละเก็บเต้นท์ด้วยครับ) เราก็ช่วยกันขนของขึ้นรถกันกับไปบอกล่าคนที่บ้านโป่งขาวและเดินทางกลับเชียงใหม่กัน(ผมกลับเชียงใหม่ส่วนคนที่เหลือกลับอุทัยฯกันครับผม) วันนี้เราเดินทางกลับมาทางถนนเส้นสะเมิง และลัดเข้าแม่ริมเพื่อไปกินข้าวเที่ยงและไปส่งผม เรากินข้าวเที่ยงกันที่ร้านเล็กๆแถวๆบ้านผมกัน และจากนั้นก็เป็นเวลาที่ต้องเเยกย้ายกัน ผมได้ขอบคุณทุกคนที่ได้มาส่งและดูแลผมตลอดการเดินทางนี้ทุกคนเลยครับ และขอให้เพื่อนและทุกคนผมโชคดีด้วยนะครับ จบ><

ขอบคุณมากเลยนะครับที่เข้ามาอ่านครับ นี่เป็นอีกตอนแล้วที่ผมได้เขีบยเกี่ยวกับการฝึกงานและเพื่อนคนอุทัยธานี ก็ผมสัญญาว่าจะเขียนให้ดีกว่าเดิมและจะเขียนต่อไปนะครับ ขอให้ทุกคนโชคดีนะครับ

(ขอขอบคุณภาพจากเพื่อนผม และคนที่ถ่ายให้นะครับ >< )

เป็นภาพหมู่ในวันเเรกที่ถ่ายโดยน้าของเพื่อนผมเองครับ ขอบคุณทุกคนเลยนะครับ

(ถึงคนที่ไปด้วย) (ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะครับผม ไว้มีโอกาศแบบนี้อีกอย่าลืมชวนผมด้วยนะครับ ขอบคุณมากเลยครับ ไว้ช่วงปิดเทอมหน้าร้อนถ้ามีโอกาสจะลงไปฝึกงานอีกรอบนะครับ) จบจริงๆละครับ ขอใ้ห้ทุกคนโชคดีนะครับ ^^

ฝากอุดหนุนน้ำพริกแคบหมู แม่แม่ทำ ของแม่ผมด้วยนะครับ

Relate Posts :

ทำง่าย บะหมี่ไข่โฮมเมด เส้นเหนียวนุ่ม สดใหม่ นวดแป้งทำกินเองที่บ้าน

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineบะหมี่ไข่โฮมเมด ทำกินเองที่บ้านกันเถอะ มีใจทางเส้น…เลยอยากชวนเพื่อนๆ มาลองทำเส้นด้วยตัวเองกันค่ะ นึกคิดแล้วอาจจะเอ๊ะ! ยุ่งยากไปป่ะ แต่บอกเลยว่าทำง่ายกว่าที่คิดนะ ตอนที่เราทำเส้นบะหมี่ไข่ ครั้งแรกเกิดจากเราเลี้ยงไก่แล้วน้องออกไข่ทุกวันไข่จากไก่ที่บ้านกินไม่ทันเลยคิดว่าเอามาทำอาหารอะไรได้บ้าง ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าอยากทำเส้นบะหมี่กินเอง ก็ทำการค้นหาวิธีทำในยูทูปในเว็บจนปรับมาได้เส้นที่ถูกใจ ไร้สารเสริมเติมแต่งกันบูดใดๆ แถมได้ความสดใหม่แบบโฮมเมดๆ เลือกส่วนผสมออกแบบเส้นได้เองด้วยจะเส้นกลม เส้นแบน เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เอาตามที่เราชอบ มากกว่าความอร่อย คือความปลอดภัยดีต่อสุขภาพกับตัวเองและสมาชิกในบ้านด้วย เราจะแชร์ส่วนผสม อุปกรณ์ วิธีทำในแบบเดียวกับที่เราได้ทดลองทำมาแล้วนะ วัตถุดิบ แป้งสาลีอเนกประสงค์ ชนิดไม่ฟอกสี ตรากบ 500 กรัม( พิกัด https://shope.ee/9UPfaCFtEw ) ไข่ไก่ 2 ฟอง น้ำ 225-250 กรัม(รอบนี้ใช้แครอทปั่นผสมด้วย น้ำหนักเมื่อชั่งรวมไข่ไม่เกิน 250 กรัม) เกลือ 5 กรัม เบคกิ้งโซดาอบ 120 องศา 1 ชม. 7 กรัม( หรือจะใช้ด่างเหลือง […]

แม่แม่ทำ

September 6, 2022

ถุยชีวิต

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineถุยชีวิต จากกล่องข้อความ ช่วงเวลาที่ ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ ว่าเราต่างรู้สึก ทุกคนล้วนแล้วแต่รับรู้ ในอารมณ์ และความรู้สึกแสนซับซ้อน และมีมากมาย พวกเรารับรู้ ถึงการมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้ ตามแต่สถานการณ์ หรือช่วงเวลา ประเด็นก็คือว่าบางครั้ง เราจะคิดว่าความซับซ้อนต่างๆกับเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา ก็ทำให้ผู้ที่ประสบอนุมานได้ว่า มันช่างยุ่งเหยิง และวุ่นวาย ยากแก่การจัดการคิดหาทางแก้ไข นั่นแหละฮะท่านผู้ชมฮะ  ช่วงเวลาที่เราสามารถพูดได้เต็มปากถึงความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ข้างในว่า… ถุยชีวิต รสชาติที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนคุณอยากจะสำรอกทิ้งในทันใด ที่ได้ลิ้มรสมัน แต่ไม่เป็นไร นั่นแหละอีกรสชาติของชีวิต ที่เราก็ต้องลิ้มรสมันบ้างเป็น เพราะไม่มีทางเลยที่คุณจะรอดพ้นจากมันไปได้  หวานเป็นลม ขมเป็นยา  จึงเป็นสุภาษิตที่ดีสำหรับการประกอบบทความชิ้นนี้ เพราะบางที “ความหวาน” มันก็บังตา จนไม่อาจทำให้คุณนั้น มองอะไรได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และรอบคอบ แต่สุดท้ายนั้น เราทุกคน ไม่มีใครสามารถจะยัดทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาในชีวิตได้หมดหรอก เพื่อนเอ๋ย ไม่ว่าจะความหวาน หรือความขม บางทีบางสิ่งบางอย่างที่ผ่านเข้ามาก็เป็นเพียงรสชาติชีวิต โดยที่สุดท้ายคุณก็จะคายมันออกมา  เหลือเพียงไว้แต่รสชาติที่ติดอยู่ในปาก เพื่อจดจำว่า คุณจะไม่ยอมให้ รสชาติชีวิตแย่ๆ และความรู้สึกแบบนี้ […]

MidnightMessageBox

May 6, 2021

ฉันมักฝันถึง…

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineฉันมักฝันถึง… จากกล่องข้อความ ความฝัน อีกหนึ่งรูปแบบของการโหยหาในบางสิ่งบางอย่าง ทั้งการแสดงออกทางความรู้สึกนึกคิด กับเรื่องราวในเหตุการณ์ต่างๆผ่านเข้ามา  นั่นจึงทำให้ “I have a dream” ประโยคคลาสสิคสุดทรงพลัง Martin Luther King, Jr. ก็ดูจะเป็นอะไรที่ดี ที่จะเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างความฝัน และความจริง ให้เป็นรูปธรรมจับต้องได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งฉันเองก็มีเหมือนกันนะ ความฝันน่ะ  ฉันมักฝันถึง… “ฝันถึงวันพรุ่งนี้ เพื่อสิ่งที่ดีกว่า” ฉันมักฝันถึงอากาศ แสนบริสุทธิ์ ที่ใครต่อใครก็ต้องการสูดมันให้มันชุ่มปอด ไม่ว่าจะด้วยการกระทำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือด้วยเทคโนโลยีเครื่องมือที่ช่วยลดทอนมลพิษ ฉันมักฝันถึงความปลอดภัย ที่ไม่ว่าคนที่รักในแสงตะวัน หรือสีสันในยามแสงจันทร์ จะได้รับมันในทุกยี่สิบสี่ชั่วโมงของทุกวัน ฉันมักฝันถึงผู้คน ที่พร้อมใจกันลงถนน…มาเดินด้วยกันบนทางเท้านุ่มนวลจนคุณลุ่มหลงในการก้าวเดินโดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง sneakers ที่ราคาบาดใจ ฉันมักฝันถึงรอยยิ้ม ของคนแปลกหน้า ที่พร้อมจะมอบมันให้กันและกัน ด้วยความจริงใจ ที่ไม่จำเป็นต้องแสแสร้งเพื่อความต้องการ และผลประโยชน์ส่วนตน ฉันมักฝันถึงเสียงหัวเราะ ของผู้คนที่มีความสุขไปกับชีวิต ประจำวัน กับชีวิตดีๆที่ลงตัวในทุกๆวัน ตามแบบฉบับของใครของมัน โดยที่ไม่มีปัจจัยหรืออะไรมากีดกัน โดยที่ทุกคนนั้นรู้ตนรู้หน้าที่ว่าต้องอะไร ภายใต้คุณภาพชีวิตที่แลกมาด้วยแรงกายแรงใจ […]

MidnightMessageBox

May 1, 2021

เฟ้นหาสีสัน ในวันที่หม่นหมอง

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineเฟ้นหาสีสัน ในวันที่หม่นหมอง กับเรื่องราว ในมุมมอง  จากกล่องข้อความ ของผู้คนมากมาย ยามวันที่ฟ้าฝน ไม่เป็นใจ ทำให้สีสันนั้น อาจหล่นหาย เมื่อสิ่งเหล่านี้ ได้ย่างกราย มาถึงใครบางคน  มันช่างเป็นอะไรที่ ไม่น่าดูชมเอาเสียเลย ว่าไหม? เราจะทำยังไงกันดีละทีนี้ “เพื่อนมนุษย์” จะยอมอ่อนข้อ ให้แก่มัน และปล่อยให้ “ช่วงเวลาเหล่านั้น หม่นหมองไปโดยปริยาย จริงๆหรือ?” ผมเองจึงมีความเห็นว่า มิควรเท่าไหร่  ที่จะปล่อยให้ สีสัน นั้นมลายจางหาย โดยปล่อยมันเอาไว้  และละเลยมันไป ให้ความ ครึ้ม อก ครึ้ม ใจ นั้นกัดกินภายใน แม้ว่า กาลเวลา จะช่วยให้สีสัน ย้อนคืนกลับมา  แต่คุณอาจต้องแลกมันมา ด้วยเวลาอันมีค่า ที่นานเกินไป จนคุณไม่สามารถกระทำสิ่งใด ได้แต่ปล่อยให้ นาฬิกา หมุนตามเข็มอย่าง ไร้ จุดมุ่งหมาย ต่อไป เพราะคงไม่มีใคร […]

MidnightMessageBox

April 16, 2021

5 เหตุผลที่ไม่ได้เขียน blog และ 5 ทางแก้ไข

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine ถ้าใครได้ติดตาม blog ของผมมาบ้างในสมัยก่อนจะรู้ว่าผมอัพ blog ค่อนข้างจะสม่ำเสมอ แต่ในช่วงปีหลังๆมานี้จะขาดๆหายๆ โดยเฉพาะปีหลังสุดนี้ห่างไปนานเป็นปีเลย นั่นสิมันหายไปไหนทำไมไม่เขียนต่อ มันก็มีเรื่องราวหลากหลายที่เกิดขึ้นแต่ละคนก็คงจะต่างกันไป สำหรับผมคือ รู้อยู่แล้วว่าการเขียน blog มันดีแต่ก็ไม่ได้ทำ วันนี้เป็นวันหยุดยาวมีเวลาว่าง ก็เลยลองมาสำรวจตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรากันนะ 5 เหตุผลที่ไม่ได้เขียน blog ถ้าเขายังไม่ block ก็จะเขียนต่ออยู่นะ ไม่มีแรงใจ มันไปไหนหมด – มันรู้สึกหมดไฟ จากที่เคยอยากแบ่งปันทุกเรื่องทุกอย่าง มันรู้สึกเหนื่อยไปหมด ไม่รู้พลังมันหายไปไหน พลังคงไม่หมดแต่ใจมันหมด อารมณ์คือแบบท้อแล้ว หมดแรง เหนื่อย กูท้อละ ไม่เอาละ ไม่มีเรื่องจะเล่า เรื่องเศร้ามันเยอะ – ที่จริงมันก็มีเรื่องเล่าแหละ แต่มันกลายเป็นหมดความมั่นใจว่าจะเล่าดีมั้ย คือเหมือนเราเจอเรื่องที่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะดีหรือแย่ จะเล่าดีมั้ยวะ บางเรื่องมันก็เกี่ยวกับคนอื่นด้วยไง เราก็เออคิดว่า ไม่เล่าดีกว่า ไม่อยากกระทบใคร ไม่อยากยุ่งกับคน มันเยอะไปสำหรับเรา ไม่เจอโควิด คิดไม่ถึงหรอก – มาถึงตอนนี้ (12.04.2021) เราเจอโควิดมาสามระลอกแล้วนะ แล้วธุรกิจของเรามันคือท่องเที่ยวซึ่งกระทบเต็มๆ […]

itong2go

April 13, 2021