รีวิว Dunkirk (2017)

คำเตือน!!! ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือไม่สามารถอดทนรับแรงกดดันอันมหาศาลได้ คุณจะลืมหายใจ หลังติดเบาะในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

การเล่าเรื่องในสไตล์ของคริสโตเฟอร์ โนแลนนั้นไม่ทำให้ผิดหวังเลย ถ้าใครเป็นแฟนโนแลนเคยดูหนังเรื่อง The Following และ Memento นี่คือการเล่าเรื่องแบบสลับเหตุการณ์ 3 สถานการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงใกล้เคียงกัน หนังทั้งเรื่องดูแล้วเหมือนกับกำลังนั่งข้างคนขับรถตีนผี ที่มันเร่งเครื่องอย่างเดียวแม้จะติดไฟแดงก็ตาม พอมันเริ่มที่จะผ่อนคันเร่งลงมาหน่อย สักพักก็ยังเสือกเหยียบคันเร่ง เร่งขึ้นไปอีก ไม่เตะเบรคเลย หายใจแทบไม่ทัน คนข้าง ๆ แอดมินถึงกับถือป๊อปคอร์นอ้างปากค้างกันเลยทีเดียว


อีกเรื่องนึงที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของหนังที่ทำให้บีบหัวใจจนแทบลืมหายใจ คือดนตรีประกอบหนังที่ฮันส์ ซิมเมอร์ เจ้าเก่าทำได้อย่างไม่กลัวคนดูเป็นนิ่ว เพราะไม่กล้าไปลุกห้องน้ำ จนแทบจะกลั้นฉี่ไม่ไหวกันเลยทีเดียว หลังจากดูหนังเสร็จแล้วคุณจะค้นพบว่าหัวใจคุณยังเต้นไม่ยอมหยุด เหมือนอาการดีด ๆ ของยาชูกำลังที่กินเกินวันละสองขวดแบบไม่อ่านคำเตือนในฉลากเลย

หนังเรื่องนี้ถูกถ่ายทำด้วยฟิล์ม IMAX 70 mm. ถ้าจะให้แนะนำควรดูหนังเรื่องนี้ในโรง IMAX เท่านั้น ถึงจะได้อรรถรสที่เต็มที่ ระบงระเบิดทีเก้าอี้สั่น ขี้หูกระเทือน ภาพมุมกว้างก็ดูสมจริง หยั่งกะผู้ชมหลุดเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ยังไงอย่างงั้น คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์จริง ๆ ให้ตายเหอะ


แอดมินให้คะแนนเรื่องนี้อยู่ที่ 9 คะแนน เป็นหนังที่พูดน้อยต่อยหนักกะเอาน็อคอย่างเดียว คุณไม่ต้องรู้ว่าตัวละครแต่ละตัวมีที่ไปที่มายังไง หรือตัวละครมีความรู้สึกนึกคิดยังไง แค่ไปดูว่าพวกเขาจะเอาตัวรอดได้จากสถานการณ์อันเลวร้ายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ยังไง แค่นั้นคุณก็แทบจะนั่งจิกเบาะ แทะเล็บมือ ลุ้นกันเยี่ยวเหนียวกันในโรงหนังละ

 

Relate Posts :