[BLOG] Digital Marketing สิ่งที่คุณต้องทำยิ่งกว่าสิ่งใดในยุคนี้ที่เชียงใหม่

       หากคุณเป็นนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการ แต่ไม่มีความรู้เรื่อง Digital Marketing คงเป็นเรื่องยากที่จะเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ เพราะยุคนี้เป็นยุคดิจิตอล ยุคที่คนคุยกันผ่านโลกออนไลน์มากกว่าพูดคุยกันแบบหน้าต่อหน้า ทุกวันนี้เรามีโทรศัพท์มือถือเป็นอวัยวะที่สามกันไปแล้ว หรือจะเถียง คุณบอกได้ไหมว่า คุณไม่เคยใช้มือถือ คุณไม่เคยเข้า Website, Facebook, Line, Twitter, Instagram จะดีกว่าไหมหากวันนี้คุณใช้สิ่งที่คุณมีให้เป็นประโยชน์ เรียนรู้เพิ่มอีกนิด แค่นี้คุณก็ครองตลาดได้ไม่ยาก
เกริ่นมาซะยืดยาว เราเป็นคนหนึ่งที่เคยคิดที่อยากจะมีร้านเสื้อผ้าและร้านจิวเวลรี่เป็นของตัวเอง คือเราจบสายอัญมณีมา แต่จบมาก็ไม่ได้จับงานด้านนี้เป็นจริงเป็นจัง เนื่องจากเพิ่งมารู้ตัวว่าชื่นชอบงานด้านสื่อ จึงเบนสายมาทำสื่อเต็มตัวเมื่อทำงาน เริ่มต้นจาก 0 เรียนรู้ใหม่หมด แต่เราก็ไม่อยากทิ้งสิ่งที่ตัวเองเรียนมา จึงตั้งใจว่าปีนี้จะเริ่มทำโดยขายบนตลาดออนไลน์ เพราะน่าจะมีความเป็นไปได้ และพอมาเริ่มสู่วงการสื่อแบบเต็มตัวก็ได้เรียนรู้ว่าสื่อโซเซียลมันมีผลต่องานขายวงกว้างจริงๆ กล้ายืนยัน นอนยันตรงนี้เลย เอ้า !
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้ฟังสัมนาหนึ่งชื่อ “พลิกโลกธุรกิจด้วย Digital Marketing” โดยโค้ชหมี กูรูระดับประเทศ คำถามแรก โค้ชหมีคือใครฟะ เหมือนเชฟหมีป่าวแว๊ คือไม่มีความสนใจที่จะไปร่วมเลยสักติ๊ด แต่เมื่อโดนคำสั่งดั่งฟ้าผ่าเปรี้ยง (เว่อร์ละๆ) จาก My Boss ให้ข้าพเจ้าเข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วย (ไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพพนักงานเลยซ๊ากคำ) ข้าน้อยก็ต้องก้มหน้าก้มตารับไปแต่โดยดี
แต่ไปครั้งนี้กลับได้รับผลประโยชน์เกินคาดเว้ยเห้ย ช่วงเช้ามีการพูดคุยแนะนำ CM Hot Deal ซึ่งเป็นของหน่วยงานภาครัฐที่อยากช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยวางตัวเป็นเหมือนตลาดออนไลน์ที่เราสามารถนำสินค้าไปวางขายได้ คล้ายกับเว็บดังๆ เช่น Alibaba, Amazon, Kaidee, แต่เป็นของเชียงใหม่ ก็มีเงื่อนไขอยู่บ้าง อ่านเพิ่มเติม http://mall.cmhotdeal.com/ แต่ถือว่าเป็นหนึ่งโอกาสสำคัญของคนที่ยังไม่ประสีประสากับการขายในตลาดออนไลน์ เพราะเขามีสอนทุกขั้นตอนและไม่มีส่วนต่างเข้าเว็บเลย คือดีอ่ะแก
Homepage เว็บ CM Hot Deal
 ส่วนไฮไลท์ต้องภาคบ่ายเลย เพราะมีการพูดถึงกลยุทธการทำสื่อออนไลน์จากเชฟหมี เอ้ย! โค้ชหมี ซึ่งแกพูดคุยเรื่องราวได้ตรงใจมาก มียกตัวอย่างครบถ้วน เราสรุปใจความสั้นๆได้ดังนี้
– สินค้าทุกชนิดต้องมีสร้าง Story มี Gimmick ให้คนซื้อได้มีส่วนร่วม เช่น ร้านเฮียฮ๋ง ร้านช.สเต็ก โดดเด่นในเรื่องของการจะได้กิน คุณต้องอดทนนะเฟ้ย! แต่ละวันจะมีลูกค้าไปยืนรอสองสามชั่วโมง ทนหิวหิ้วท้องรอเพื่อได้กินแค่บะหมี่แค่ชามเดียว นี่มันใช่หรอจอร์จ? ซาร่าถาม
– สร้างคำถามให้กับตัวเองว่า สินค้าของเราจะเข้าถึงกลุ่มคนได้ยังไง โดยคำนึงถึงตลาดออนไลน์ ซึ่งมันเป็นตลาดใหม่ที่กว้างมาก คนไทยใช้ Facebook, Line ติดอันดับโลก คิดดูเถอะแก!
– เน้นย้ำการสร้าง Character ของแบรนด์ คือ ใส่ลายละเอียดลงไปแม้กระทั่งรหัสสีที่ใช้ เอิ่ม! แล้วแบรนด์ตูรหัสไรงะ คิดแพ้บ!!
– ซื้อสื่อ ไม่ว่าจะเป็นแบนเนอร์บนเว็บ เช่น รีวิวเชียงใหม่ (นี่ๆแอบขายของหน่อย) สื่อ Facebook,  SEO บน Google และอีกต่างๆนานา
– เทคนิคสำคัญคือ การขายของบนโลกโซเซียล คุณต้องซื่อสัตย์ เพราะลูกค้าสมัยนี้ฉลาด และ คุณต้องเป็นเพื่อนเขาไม่ใช่คนขาย
– คุณต้องมองสินค้าของคุณในมุมลูกค้า ถ้าคุณเป็นเขาคุณจะซื้อไหม? (ห้ามเข้าข้างตัวเองเด็ดขาด!)
– ต้องสร้างมโนภาพให้ได้ว่าเขาใช้แล้วมันจะดี เช่น Iphone คือตูไม่รู้ว่ามันดีไหม แต่ตูซื้อไว้ก่อน มันเท่ดี (โธ่ ไอ้สิ้นคิด!)
เรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์เคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ ที่พอจะให้ลองเอาไปปรับใช้ได้บ้าง ใครมีเคล็ดลับมากกว่านี้สามารถนำมาแชร์ตามช่อง Comment ด้านล่างกันได้เลยนะ
ภาพ / เรื่อง : บูบีลีลาเด็ด 

ตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ

ป้ากรี ขนมปลากริมไข่เต่า ขนมปลากริมคือไร ไม่เคยกินดูปุ๊บอยากกินปั๊บ Production ดีจริงๆ
เฮียฮ๋ง บะหมี่ยามดึกสำหรับคนคึกไม่ยอมนอนแต่ไปต่อคิวยาวหลายกิโลเพื่อซื้อ
เฮียตั้มซีฟู้ด ใช้สื่อ Social จนลูกค้าคิวแน่นเอี๊ยด!!

Relate Posts :