เจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานตลาดช้างเผือก – วันนี้รีวิวเชียงใหม่จะพาทุกคนไปพบกับร้านบัวลอยเจ้าดังของเชียงใหม่ที่เปิดมาแล้วเกือบครึ่งศตวรรษอย่างร้านเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานตลาดช้างเผือก เราจะพาไปดูว่ากว่าจะมาเป็นเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานเจ้าดังในทุกวันนี้ เจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานนั้นต้องผ่านอะไรมากบ้าง และทำไม มีเหตุผลอะไรถึงเปลี่ยนจากร้านคั่วกาแฟมาเป็นบัวลอยไข่หวานอย่างทุกวันนี้
แนะนำตัวเจ๊ซ้วงและร้านเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานตลาดช้างเผือก
“เจ๊ซ้วง” เจ้าของร้านเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานตลาดช้างเผือก อายุ 60 ปี สำหรับคำว่า “ซ้วง” นั้นมาจากภาษาจีนที่แปลว่า “ปะการัง” โดยเจ๊ซ้วงนั้นมีพี่น้อง 2 คน (รวมเจ๊ซ้วงเป็น 3 คน เจ๊ซ้วงเป็นลูกคนกลาง) สำหรับชีวิตในวัยเด็กของเจ๊ซ้วงนั้นเจ๊ซ้วงทำงานมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเฉพาะการเป็นแม่ค้าที่เหมือนติดอยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่เกิดแล้ว เพราะหลังจากกลับจากโรงเรียน เจ๊ซ้วงนั้นก็จะมาช่วยอากงอาม่าขายของ โดยอากงนั้นจะขายอาหารตามสั่ง ส่วนอาม่านั้นจะขายขนมหวาน
นอกจากเจ๊ซ้วงแล้ว พี่น้องอีก 2 คนของเจ๊ซ้วงก็มีหน้าที่ในการช่วยอากงอาม่าในการขายของเช่นกัน โดยพี่สาวคนโตนั้นจะมีหน้าที่ในการช่วยขายน้ำผลไม้ปั่นและกาแฟ ส่วนเจ๊ซ้วงนั้นจะช่วยขายบัวลอยไข่หวาน และน้องเล็กสุดจะช่วยขายขนมหวาน โดยครอบครัวของเจ๊ซ้วงนั้นจะขับรถจากประตูเชียงใหม่เพื่อมาขายของอยู่ที่ประตูช้างเผือก
จุดกำเนิดของเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานตลาดช้างเผือก
อย่างที่ได้บอกไปว่าเจ๊ซ้วงนั้นเหมือนมีสายเลือดค้าขายมาตั้งแต่เกิด เพราะในวัยเด็กก็ช่วยที่บ้านขายของมาตลอด และนอกจากนี้เจ๊ซ้วงก็เคยได้ลองไปทำงานอย่างอื่นเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าไม่ได้ชอบกับงานที่ทำอยู่ แถมงานหนักด้วย เจ๊ซ้วงเลยตัดสินใจหันมาช่วยงานที่บ้านแบบเต็มตัว โดยเริ่มต้นจากมาเปิดร้านน้ำแข็งไสที่ตลาดช้างเผือก เนื่องจากพี่สาวนั้นเปิดร้านราดหน้าที่ตลาดช้างเผือกเหมือนกัน ชื่อว่า “เปี๊ยกราดหน้า”
จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่พี่น้องทั้ง 3 คนนั้นแต่งงานและทุกคนก็ต้องแยกย้ายไปอยู่กับครอบครัว โดยพี่สาวของเจ๊ซ้วงนั้นย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนน้องสาวนั้นย้ายไปทำธุรกิจส่วนตัวที่อำเภอเวียงป่าเป้า เหลือเพียงเจ๊ซ้วงคนเดียวที่ยังไม่ได้ไปไหน จึงตัดสินใจรับช่วงต่อจากอากงอาม่าในการทำร้านบัวลอยขายหวาน
กว่าจะมาเป็นเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวาน
ก่อนหน้าที่จะมาเป็นเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่วหานนั้น เจ๊ซ้วงเล่าให้เราฟังว่าก่อนหน้านี้ครอบครัวของเจ๊ซ้วงนั้นทำร้านคั่วกาแฟอยู่แถวท่าแพ แต่เมื่อท่าแพเกิดไฟ จึงย้ายโลเคชั่นมาอยู่ที่หลังประตูเชียงใหม่ โดยที่จะขับรถจากประตูเชียงใหม่มาขายของอยู่ที่ประตูช้างเผือก นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ 46 ปีแล้วที่เจ๊ซ้วงนั้นขายบัวลอยไข่หวานอยู่ที่ตลาดช้างเผือก
นอกจากนี้เจ๊ซ้วงยังได้เล่าว่าขนมบางตัวก็ได้มาจากการเรียนรู้จากญาติของตัวเอง โดยอย่างเมนูทับทิมกรอบก็ได้ที่อาซิ้มเป็นคนสอนในการทำทับทิมกรอบ
บัวลอยที่ดีของเจ๊ซ้วง บัวลอยไข่หวานประตูช้างเผือก
“บัวลอยที่ดีในความคิดของหม่าม้า คิดว่าเป็นอย่างไร” เราถามคำถามนี้กับเจ๊ซ้วงว่าบัวลอยที่ดีในความคิดของเจ๊ซ้วงเป็นอย่างไร เจ๊ซ้วงก็ตอบว่าเม็ดบัวลอยนั้นจะต้องมีความนุ่ม ยิ่งถ้าได้เม็ดบัวลอยที่ต้มเสร็จใหม่ ๆ จะยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก เพราะจะมีความนุ่ม ๆ เหนียว ๆ นอกจากนี้น้ำกะทิก็ต้องมาจากมะพร้าวที่ไม่มีจาว จะได้กลิ่นหอมกะทิ กะทิกล่องก็ไม่สามารถใช้ได้ มันใช้แทนกันไม่ได้
บัวลอยไข่หวานเป็นของหวานหรือของคาว ?
คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตที่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า “บัวลอยไข่หวานเป็นของหวานหรือของคาว ?” ในเมื่อเรามาสัมภาษณ์กับเจ้าของร้านบัวลอยไข่หวานก็อดที่จะถามคำถามนี้ไม่ได้ ซึ่งเจ๊ซ้วงก็ตอบว่าสำหรับเจ๊ซ้วงนั้นบัวลอยไข่หวานนั้นเป็นของหวาน
บัวลอยไข่หวานต้องกินอุ่นหรือกินเย็น
นี่ก็เป็นอีกคำถามยอดฮิตเช่นเดียวกันว่าบัวลอยไข่หวานนั้นต้องกินตอนที่มันยังอุ่น ๆ หรือว่ากินต้องเติมน้ำแข็งใส่เข้าไปให้มันเย็น ๆ สุดท้ายเจ๊ซ้วงก็ให้คำตอบกับเราว่าควรจะกินตอนที่มันอุ่น ๆ จะดีกว่า ผสมกับความชอบส่วนตัวของเจ๊ซ้วงเองด้วย เพราะเวลาที่กินตอนอุ่น เรายังจะได้เม็ดบัวลอยที่มีความนุ่ม
แต่ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่นั้นชอบกินอะไรที่มันเย็น ๆ ซึ่งมันก็ไม่ผิดเช่นกัน เพราะถ้าหากใส่น้ำแข็งลงไป มันก็จะช่วยทำให้ได้เนื้อสัมผัสของเม็ดบัวลอยในอีกรูปแบบ ได้จะเม็ดบัวลอยที่มีหนึบ ๆ เคี้ยวแล้วมีความสู้ฟันอยู่บ้าง
บัวลอยไข่หวานในแบบที่เจ๊ซ้วงชอบ
ต่อจากคำถามที่ถามว่าบัวลอยไข่หวานเป็นของหวานหรือของคาว หลังจากที่ตอบคำถามนี้ไปแล้ว เจ๊ซ้วงก็ได้เสริมต่อว่าสำหรับตัวเองนั้น ชอบแบบไม่ใส่ไข่ เจ๊ซ้วงจะชอบกินแบบแค่น้ำและเม็ดบัวลอย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ส่วนตัวเจ๊ซ้วงนั้นจะชอบแบบไม่ใส่ไข่
แต่ถ้าหากใส่ไข่แล้วมันก็จะเพิ่มความหอมของบัวลอยให้หอมมากขึ้น และถ้าคนที่กินเป็นมันก็จะไม่มีกลิ่นคาวของไข่อีกด้วย
เอกลักษณ์ของซ้วงบัวลอยไข่หวานประตูช้างเผือก
เจ๊ซ้วงบอกกับเราว่าเอกลักษณ์ของร้านนั้นจะอยู่ที่ “เม็ดบัวลอย” เพราะเม็ดบัวลอยของซ้วงบัวลอยไข่หวานประตูช้างเผือกนั้นจะมีขนาดเป็นเม็ดเล็ก ๆ แถมที่ร้านยังใช้ใบเตยแท้อีกด้วย ทำให้นอกจากเนื้อสัมผัสของเม็ดบัวลอยที่นุ่มแล้ว ยังจะได้กลิ่นของหอมของใบเตยอีกด้วย
ซ้วงบัวลอยไข่หวาน กับฉายา “บัวลอยถ้วยน้ำจิ้ม”
ด้วยความที่เจ๊ซ้วงเป็นคนที่น่ารัก อัธยาศัยดี พูดคุยด้วยแล้วสนุก เจ๊ซ้วงก็มักจะพูดเสริมเติมสาระให้กับเราอยู่เรื่อย ๆ ในทุกคำถาม จนมาถึงเรื่องนี้ก็เช่นกัน เจ๊ซ้วงเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนนั้นร้านจะได้รับชื่อเล่นหรือฉายาว่า “บัวลอยถ้วยน้ำจิ้ม” เพราะว่าแต่เดิมนั้นในตอนที่ขายก่อนที่จะมีโควิด-19 ภาชนะที่เอาไว้เสิร์ฟให้กับลูกค้านั้นจะเป็นถ้วยน้ำจิ้มที่เป็นแบบถ้วยกระเบื้อง แต่พอเกิดโควิดระบาด ประกอบกับลูกค้ากลัวว่าทางร้านจะร้านถ้วยไม่สะอาด ร้านก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนจากถ้วยกระเบื้องมาเป็นถ้วยกระดาษจนถึงทุกวันนี้
และส่วนตัวเจ๊ซ้วงนั้นจะชอบกินแบบใส่ในถ้วยน้ำจิ้ม เพราะมันได้ปริมาณที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ถ้ามากไปก็จะมีความเลี่ยน แถมระหว่างที่กินก็จะได้ยินเสียงช้อนกระทบกับถ้วย เพิ่มอรรถรสในการกินไปอีกแบบนึง
เจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานที่ชาวต่างชาติยังบอกว่า “Amazing”
เราทราบกันดีว่าตลาดช้างเผือกนั้นเป็นแหล่งที่มี “สตรีทฟูด” ขายอยู่เป็นจำนวนมาก หลากหลายร้าน แถมขึ้นชื่อว่าสตรีทฟูดของประเทศไทยแล้ว ไม่เพียงแต่คนไทยจะชอบแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ชอบเช่นเดียวกัน และแน่นอนว่าบัวลอยไข่หวานก็เป็นสตรีทฟูดอีกอย่างหนึ่งที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทย
โดยเจ๊ซ้วงบอกว่านักท่องเที่ยวฝรั่งนั้นจะรู้สึกว๊าวและอเมซิงกับบัวลอยไข่หวานมาก จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาอุดหนุนมากที่สุด บวกกับการขายของไกด์นำเที่ยวด้วยว่าจะขายบัวลอยไข่หวานให้น่ากินอย่างไร เจ๊ซ้วงบอกว่าที่ฝรั่งนั้นชอบในบัวลอยไข่หวานก็เพราะว่ามันเหมือนเป็นการผสมของหวานและของคาวในถ้วยเดียว จากที่คิดว่าไม่น่าจะเข้ากันได้ มันกลับเข้ากันซะอย่างนั้น แถมยังได้กลิ่นหอมของใบเตยและเนื้อสัมผัสของเม็ดบัวลอยที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน รสชาติก็จะหอม ๆ หวาน ๆ มัน ๆ
เทศกาล “ไหว้บัวลอย”
นี่เป็นเรื่องที่ทางรีวิวเชียงใหม่ก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่าที่ประเทศจีนนั้นจะมีเทศกาลที่ชื่อว่า “เทศกาลไหว้บัวลอย” เป็นช่วงเวลาที่เป็นเหมือนกับ Checkpoint ว่าเราโตขึ้นไปอีกปีแล้ว โดยที่เมื่อใกล้ถึงเทศกาลไหว้บัวลอยคนจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนก็มักจะมาซื้อบัวลอยไข่หวานที่เจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานประตูช้างเผือกไปไหว้ตี่จู่เอี๊ยะอยู่ตลอด ๆ ในทุกปี แต่ถ้าของคนจีนนั้นจะเป็นบัวลอยที่ไม่มีกะทิ
อนาคตของบัวลอยไข่หวาน
อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบันว่ามีขนมผุดขึ้นมาเยอะแยะมากมายทั้งไทยและเทศ ทำให้เกิดการแข่งขันเป็นอย่างมาก ด้วยเทรนด์สมัยนี้เราก็เลยถามกับเจ๊ซ้วงว่าในเมื่อบัวลอยไข่หวานมีคู่แข่งเยอะแบบนี้ คิดว่าอนาคตของบัวลอยไข่หวานจะเป็นยังไง ยังจะมีคนกินบัวลอยไข่หวานอยู่อีกไหม
เจ๊ซ้วงก็บอกกับเราว่าสุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของ ขึ้นอยู่กับคนขาย เพราะควรที่จะต้องมีการปรับปรุง พัฒนาอยู่ตลอด ๆ ต้องมีการพลิกแพลง ดัดแปลงให้กับเทรนด์ให้เข้ากับยุคสมัย และต้องปรับตามความต้องการและความชอบของลูกค้า
เจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานประตูช้างเผือก ร้านที่ไม่เคยมีวิกฤต
จากที่เราได้เคยไปสัมภาษณ์มาในทุก ๆ ร้าน หลาย ๆ ร้านนั้นก็มักจะมีจุดดรอปหรือจุดวิกฤตของแต่ละร้าน แต่บางร้านก็ไม่มีจุดนั้นซึ่งเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานเป็นแบบหลังที่ไม่เคยมีจุดดรอป แม้กระทั่งช่วงที่โควิดระบาดหนัก ๆ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเจ๊ซ้วงเลย เพราะในช่วงที่โควิดระบาด เจ๊ซ้วงก็ได้ปรับกลยุทธ์ในการขายในเมื่อสั่งห้ามนั่งกินที่ร้านก็เปลี่ยนเป็นการส่งตามไปเลย รวมไปถึงเปลี่ยนจากถ้วยน้ำจิ้มมาเป็นถ้วยกระดาษแทน
ความประทับใจจากลูกค้าที่ส่งต่อให้เจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานประตูช้างเผือก
ด้วยความที่เปิดมาแล้วเกือบ 50 ปีจึงไม่แปลกเลยที่จะทำให้ร้านเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานประตูช้างเผือกนั้นจะมีลูกค้าประจำที่ติดใจในรสชาติบัวลอยไข่หวานของเจ๊ซ้วงและยังกินมาอยู่ตลอด เราก็ได้ถามความประทับที่ลูกค้าส่งต่อมาให้กับเจ๊ซ้วงว่ามีอะไรบ้าง
เจ๊ซ้วงก็บอกว่าเวลาลูกค้ามากินก็มักจะขอบคุณและชมว่าบัวลอยไข่หวานที่เจ๊ซ้วงอร่อยมาก ซึ่งแค่คำว่า “ขอบคุณ” แค่นี้เจ๊ซ้วงบอกดีใจแล้ว แค่นี้ก็ทำให้มีกำลังใจและอยากทำให้ขนมบัวลอยไข่หวานดีขึ้นอร่อยขึ้นแล้ว
ไม่เพียงนั้นยังมีลูกค้าที่มากินตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายจนส่งต่อมาให้รุ่นแม่ รุ่นแม่ก็พารุ่นลูกมากิน รุ่นลูกกินเสร็จผ่านไปหลายปีก็พารุ่นหลานมากินอีก กลายเป็นเหมือนร้านประจำของครอบครัวไปแล้ว นอกจากนี้ความน่ารักของเจ๊ซ้วงที่น่ารักมาก ๆ ก็คือ เจ๊ซ้วงสามารถจำได้ว่าลูกค้าประจำคนนั้นกินแบบไหน คนนี้กินแบบไหน หวานน้อย หวานมาก เจ๊ซ้วงสามารถจำได้
เคล็ดที่ทำให้เจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานเปิดมาได้นานขนาดนี้
46 ปี คืออายุของร้านเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานประตูช้างเผือก ถ้าเทียบกับอายุคนก็เหมือนว่าผ่านอะไรมาอย่างมากมายแล้ว ล้มลุกคลุกคลาน เข้าสู่วัยกลางคนแล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็มากแล้ว “อะไรที่ยังทำให้เจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานยังอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ?” นี่คือคำถามที่เราถามกับเจ๊ซ้วง
คำตอบที่เจ๊ซ้วงให้กลับมาก็คือ “เราต้องชอบด้วย” เพราะถ้าในเมื่อเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบเรารัก เราก็จะอยู่กับมันได้นาน ซึ่งเจ๊ซ้วงก็ได้ทำให้เห็นแล้วจากการที่เลิกทำงานที่ตัวเองไม่ชอบแล้วหันมาทำบัวลอยไข่หวานแทน กลายเป็นสมบัติที่เจ๊ซ้วงนั้นส่งต่อให้กับลูกสาวอีก 2 คนได้อีก
ความภูมิใจของเจ๊ซ้วง บัวลอยไข่หวานประตูช้างเผือก
ตอนแรกที่เราถามคำถามนี้ไป เราคิดว่าเจ๊ซ้วงคงตอบและพูดถึงตัวเอง แต่กลับกันเลย เจ๊ซ้วงกลับพูดถึงลูกสาวทั้ง 2 คนแทนว่าภูมิใจที่ทั้งคู่นั้นสามารถมารับช่วงจากเจ๊ซ้วงได้ แถมยังภูมิใจอีกว่ายังคงเอกลักษณ์และรสชาติของบัวลอยไข่หวานในแบบเจ๊ซ้วงได้อยู่
เจ๊ซ้วง บัวลอยไข่หวานกับคำแนะนำถึงคนรุ่นใหม่
สุดท้ายก่อนที่จะจากกันไป เราได้ขอคำแนะนำจากเจ๊ซ้วงเพื่อส่งต่อไปให้ถึงคนรุ่นใหม่หรือคนที่อยากทำร้านอาหาร ร้านขนมหรือธุรกิจอื่น ๆ ว่าควรทำอย่างไรที่จะสามารถเปิดมาได้ยาวนานขนาดนี้
เจ๊ซ้วงก็ได้ฝากคำแนะนำมาว่าเราต้องโดดไปลงมือทำเอง โดดลงไปอยู่กับมัน โดดลงไปคลุกคลีกับมัน เพื่อที่เราจะได้เห็นปัญหาว่ามันมีอะไรบ้างและจะต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง และเพื่อที่จะทำให้ได้ในสิ่งหรือรสชาติที่เราต้องการ รวมไปถึงต้องมีความอดทนและสายป่านยาวพอเพื่อที่จะทำให้ร้านประสบความสำเร็จ
วันเวลาเปิด-ปิดและพิกัด
- พิกัด:
- สาขาตลาดช้างเผือก (หน้าตลาดช้างเผือกอยู่ติดกับสุกี้ช้างเผือกและขาหมูช้างเผือกคาวบอย)
- สาขากรีนปาร์คเชียงใหม่ (อยู่ถัดจากเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่)
- สาขาราชพฤกษ์เชียงใหม่ (ในปั๊มเชลล์ราชพฤกษ์)
- สาขาบรรทัดทอง (กำลังจะเปิดเร็ว ๆ นี้)
- เวลาเปิด-ปิด:
- สาขาตลาดช้างเผือก 17.00 น. – 24.00 น.
- สาขากรีนปาร์คเชียงใหม่ 12.00 น. – 22.00 น.
- สาขาราชพฤกษ์เชียงใหม่ 10.00 น. – 20.00 น.
- GPS:
- สาขาตลาดช้างเผือก (https://g.co/kgs/dxWGtcg)
ช่องทางการติดต่อ
- เบอร์โทรศัพท์:
- 081-9516646 (สาขาตลาดช้างเผือก)
- 061-5819447 (สาขากรีนปาร์คเชียงใหม่)
- 095-9097633 (สาขาราชพฤกษ์เชียงใหม่)
- Facebook: ร้านเจ๊ซ้วงบัวลอยไข่หวานตลาดช้างเผือก