วันนี้อยากจะเล่าให้ทุกคนฟังถึงการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค COVID-19 ซึ่งเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เมื่อฉีดแล้วเราก็ยังมีโอกาสในการติดเชื้อได้ การป้องกันที่ดีคือการ สวมหน้ากากอนามัย ตลอดจนล้างมือบ่อยๆ ก็เหมือนที่เคยทำนั่นแหละ การฉีดวัคซีนคือการสร้างภูมิคุ้มกันและลดความรุนแรง(เมื่อเกิดการติดเชื้อ)
เอาละเรามาพูดถึงการรับวัคซีนของผมก่อนเลย การรีวิวในครั้งนี้คงเป็นการรีวิวที่สุดในชีวิตที่ได้บรรยายให้ทุกท่านได้รับรู้ เพราะต้องเอาร่างกายอันบอบบางของผมมาเป็นตัวพิสูจน์ ซึ่งในช่วงเวลานี้ก็ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมงของการฉีด (เหลือประมาณ 4 ชั่วโมงจะครบ) ผมนั้นได้รับการนัดหมายในการฉีดวัคซีนที่ โรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่ เมื่อเราไปจะได้รับบัตรคิวเพื่อลำดับในการรับการฉีดวัคซีน จากนั้นแล้วเราจะต้องกรอกเอกสารถึงประวัติส่วนตัว มีโรคประจำตัว มีประวัติการแพ้ยา หรือ มีความดันสูง เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการฉีดวัคซีน เมื่อถึงคิว ก็ต้องเข้าไปวัดอุณหภูมิ วัดความดัน และ ยื่นเอกสาร พร้อมบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ และจะมีลำดับขั้นตอนในการซักประวัติ และการอัพโหลดลงฐานข้อมูลกลาง จากนั้นแล้วก็เข้าไปฉีดได้เลย
![](https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2021/05/186479415_178564967488714_1095933641905055270_n-1024x732.jpg)
![](https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2021/05/187182092_607897213499822_3577829917264596515_n-1024x731.jpg)
![](https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2021/05/186472510_1459800647707281_4286110039873206427_n-1024x731.jpg)
เมื่อเข้าห้องฉีด ความสนุกก็เกิดขึ้น เพราะในห้องมีเจ้าหน้าที่ถึง 3 ท่าน ท่านแรกจะนำเอกสารของเราไปสแกนเพื่อลงฐานข้อมูล เพราะว่าการฉีดจะต้องมีข้อมูลของวัคซีน หมายเลขอะไร ตลอดจนถึงใครเป็นคนฉีด และใครเป็นผู้รับวัคซีน 3 อย่างนี้จะต้องลงในฐานข้อมูลประวัติของเรา ซึ่งมันจะไปโผล่ใน แอป “หมอพร้อม” ซึ่งจะอัพเดทภายในเวลาต่อมา (ประมาณช่วงค่ำหลังฉีด) เจ้าหน้าที่อีกท่าน ทำหน้าที่ฉีดยาให้เรา ร้อยทั้งร้อยบอกว่า มือเบามากแทบไม่รู้สึก (ถามเพื่อนทุกคนบอกตรงกัน) และเจ้าหน้าที่อีกท่าน มีหน้าที่ถ่ายรูปให้เราเพื่อให้เราได้ภาพสวยๆ (ใครๆก็อยากได้ภาพตรงนี้)
![](https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2021/05/184929209_940910266685721_7794601464227960409_n-1024x732.jpg)
![](https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2021/05/186128474_504166217433965_5606041246480373438_n-1024x731.jpg)
เมื่อฉีดแล้วออกจากห้องก็จะได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ ว่าเราต้องโหลดแอป หมอพร้อม และ กำหนดเวลาให้เราพักอยู่อีกห้องซึ่งมีเก้าอี้ให้นั่งพักและดื่มน้ำ ซึ่งเราจะต้องอยู่รอดูสังเกตุอาการ 30 นาที ให้ครบตามเวลา เพื่อสังเกตุอาการดูผลข้างเคียงเวลานั้นเราก็นั่งคุยกับเพื่อน หรือ เล่นโทรศัพท์ เมื่อครบเวลาแล้ว เราก็ไปยังขั้นตอนสุดท้ายคือการรับใบนัด โดยยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่เพื่อออกใบนัดครั้งต่อไป (จริงๆแล้วใน แอปพลิเคชั่น หมอพร้อม ก็มีบอกในเวลาต่อมา) แต่ขั้นตอนสุดท้ายทุกท่านจะได้รับใบเตือนด้วยว่าต้องดื่มน้ำเยอะๆ หรืออาจจะพบผลข้างเคียงอื่นๆ ว่าอาจจะมีไข้อ่อนๆ หรือเวียนหัว และนอกจากนั้นยังมีข้อปฏิบัติ ในเรื่องของการดื่มกาแฟ และ งดดื่มแอลกอฮอลล์ ตลอดไปจนถึงการออกกำลังกาย
![](https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2021/05/185310024_480326323220064_5511097544314723628_n-1024x731.jpg)
![](https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2021/05/184607990_968616053876458_1924814452506070682_n-1024x731.jpg)
![](https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2021/05/186488010_5488899121182546_2513031170561091863_n-1024x731.jpg)
กลับมาที่ side effect (ผลข้างเคียง) ที่เกิดกับตัวผมซึ่งเกิดขึ้นแน่ๆ นั่นคือเมื่อฉีดแล้ว เกิดอาหารหิวข้าวสุดๆ (ไม่ได้กินข้าวเที่ยงรึเปล่าว ??) แต่ผมไม่ได้เป็นคนเดียว มีเพื่อนก่อนหน้านั้น (ฉีดก่อน1วัน) ก็เป็นแบบเดียวกันคือหิว ลำดับต่อมาผมก็ร้อน(เหงื่อออกเยอะมาก) พี่ท่านหนึ่งก็บอกแบบภาษาชาวบ้านคือ ข้างในร่างกายเรามันกำลังต่อสู้กันอยู่ (แหมมเหมือนสนามรบ) และ สิ่งที่สำคัญคือการดื่มน้ำเยอะๆ (ผมต้องพกขวดน้ำใหญ่ไปด้วยตลอด) ส่วนสำคัญคือเราจะปวดแขน(ข้างที่ฉีด) หมอก็ไม่แนะนำให้ยกของหนักหรือทำงานหนัก (พักผ่อน)
![](https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2021/05/188280331_482451392874814_6226239423622106835_n-1024x576.jpg)
ในตอนเช้าสิ่งที่ต้องทำคือการเข้าไปยัง แอปหมอพร้อม และส่งแบบประเมินอาการหลังฉีดวัคซีน เพียงเท่านี้เราก็ใช้ชีวิตตามปกติ คือการสวมหน้ากาก อนามัยอยู่ตลอด และ ล้างมือบ่อยๆ ระมัดระวังในการจับของใช้ที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น และ รอฉีดวัคซีนเข็มต่อไปในระยะเวลาที่กำหนดคืออีกประมาณ 2 สัปดาห์สิ่งที่อยากให้ทุกคนมองคือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกคน เขาทำงานหนักจริงๆ และมีความเสี่ยง อันนี้ขอคาราวะด้วยหัวใจ เลยนะครับ
สรุปรีวิวการ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด โดยรวม
1.การฉีดในครั้งนี้ผมไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากเป็นไปตามปกติ
2.ไม่ได้กลัวเข็มเพราะมั่นใจน้องพยาบาลว่ามือเบามาก (เบาจริง) ใจดีด้วย
3.บรรยากาศการฉีด สบายๆ พี่น้องพยาบาลน่ารักอารมณดี ดูแล้วสบายๆ
4.ผลกระทบเดียวที่เป็นเหมือนกันหลายคนคือ “หิวข้าว” + “เจ็บแขนเล็กน้อย”
5.ตื่นนอนมารู้สึกอ่อนแรงเพลียเล็กน้อยและอย่างที่บอกแหละครับดื่มน้ำเยอะๆ
ข้อมูลประกอบการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด
ในส่วนของ ชนิดของวัคซีน COVID-19 จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก มีการคิดค้นวัคซีนโควิด-19 โดยหลายบริษัทผู้ผลิตและหลายรูปแบบ วิธีการผลิตวัคซีนหรือที่มาของวัคซีนมีหลายวิธีการ แต่ทั้งหมดคือให้ต่อต้านไวรัสโคโรนาซาร์โควี-2 (SAR-CoV-2) ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายเพื่อไปก่อโรคได้ โดยที่ไวรัสนี้จะมีส่วนที่เป็นไกลโคโปรตีนยื่นออกจากเซลล์เรียกว่าสไปค์ (Spike) จะไปจับกับตัวรับ (Receptor) ที่อยู่บนเซลล์ในร่างกาย เช่น ที่ทางเดินหายใจหรือลำไส้ เมื่อจับกันแล้วไวรัสก็จะเข้าสู่ร่างกายและไปก่อโรค โดย 4 วิธีการที่มีการผลิตมากที่สุด ได้แก่
1. messenger RNA (mRNA) vaccine เป็นวัคซีนที่มีส่วนที่กำกับการสร้างโปรตีนของไวรัส SAR-CoV-2 ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เมื่อฉีดวัคซีนแล้วร่างกายจะสร้างโปรตีนชนิดนั้นขึ้นมาและทำลาย mRNA ที่ฉีดเข้าไป จากนั้นร่างกายจะรับรู้ว่าโปรตีนที่สร้างขึ้นมานั้นเป็นสิ่งแปลกปลอมและจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมา
2. Viral Vector เป็นวัคซีนที่ตัดต่อทางพันธุกรรมโดยการใช้สารทางพันธุกรรมของไวรัส SAR-CoV-2 ใส่เข้าไปในตัวไวรัสชนิดอื่นที่ไม่ก่อโรค (เรียกไวรัสนี้ว่า Viral Vector) เมื่อฉีดวัคซีนเข้าไปในร่างกายแล้ว Viral Vector จะพาเอาสารพันธุกรรมนั้นเข้าไปในเซลล์ของเรา ทำให้เกิดการสร้างโปรตีนที่จำเพาะต่อเชื้อไวรัส SAR-CoV-2 ขึ้นมา จากนั้นร่างกายจะรับรู้ว่าโปรตีนที่สร้างขึ้นมานั้นเป็นสิ่งแปลกปลอมและจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมา
3. Inactivated Virus Vaccine หรือวัคซีนเชื้อตาย ผลิตโดยการเลี้ยงไวรัสชนิดนี้ให้ได้ปริมาณมากแล้วมาทำให้ตายด้วยสารเคมีหรือความร้อน เมื่อฉีดวัคซีนแล้วร่างกายจะรับรู้ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมและจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมา
4. Protein Subunit Vaccine เป็นการผลิตวัคซีนมาจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อไวรัส SAR-CoV-2 ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เมื่อฉีดวัคซีนแล้วร่างกายจะรับรู้ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมและจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมา
มาเข้าเรื่องของผมต่อ ทุกคนสงสัยแน่นอนว่าผมได้รับวัคซีนอะไรในการฉีดครั้งนี้ ต้องบอกเลยว่าผมได้รับวัคซีน “ซิโนแวต” เป็นวัคซีนในแบบ Inactivated Virus Vaccine เป็นการใช้เทคโนโลยีที่นำเชื้อโควิด และทำให้อ่อนแรงลง จนไม่สามารถทำอันตรายได้ และนำเข้าร่างกายเรา จนภูมิฯ ของเราจดจำเชื้อไวรัสนี้ และเมื่อเชื้อเข้ามาก็จะไปจัดการ ซึ่ง ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แถลงที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 ที่ผ่านมาว่า เทคโนโลยีนี้ เป็นเทคโนโลยีเดิมแต่มีราคาสูง เพราะต้องไปจัดการเชื้อให้อ่อนแรงไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย ซึ่งได้ผลประมาณ 50% ที่เพียงพอต่อการเกิดภูมิคุ้มกัน โดยเทคโนโลยีนี้คือเทคโนโลยีเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งปลอดภัยมาก
วัคซีนป้องกันโควิด-19 จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสนี้ขึ้นมา ช่วยป้องกันการติดเชื้อหาก
ได้รับเชื้อในอนาคต แต่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งหลังฉีดวัคซีนร่างกายจึงจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้ การฉีดวัคซีนผู้รับวัคซีนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น
โดยปกติเมื่อเชื้อโรคทุกชนิดเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะมีวิธีจัดการเชื้อหลายแบบ หนึ่งในนั้นคือเม็ดเลือดขาวชนิด Macrophage จะกลืนเชื้อเข้าไปและทิ้งเศษซากเชื้อบางส่วนไว้เรียกว่า แอนติเจน (Antigen) ร่างกายจะรับรู้ว่าแอนติเจนคือสิ่งแปลกปลอมและจะสร้างแอนติบอดี (Antibody) มาจัดการสิ่งแปลกปลอมนั้น รวมถึงมีเม็ดเลือดขาวอีกชนิดหนึ่งที่จำว่าเชื้อโรคนี้คือสิ่งแปลกปลอม ถ้าหากได้รับเชื้อในอนาคตร่างกายจะสามารถจดจำและจัดการได้ การทำงานของวัคซีนเป็นไปในลักษณะเดียวกัน
ขอบคุณการรีวิวจาก : กรวุฒิ อาศนะ / นักวิชาการสื่อมวลชน