ร้านแว่นตา Orbit-โดยนักทัศนมาตร ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล เชียงใหม่

มองหาร้านแว่นใหม่ ออบิทไงมีหมอสายตา!! หากพูดถึงร้านตัดแว่นสายตา ร้านแว่นตาในเชียงใหม่ทุกๆ ร้านมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาทางด้านสายตาได้ใกล้เคียงกัน แต่จะดีกว่าไหมถ้าแว่นตาที่คุณตัด มาจากผู้เชี่ยวชาญ โดยตรง คือนักทัศนมาตรหรือคุณหมอสายตา ผู้ซึ่งเรียนจบมาทางด้านแก้ปัญหาทางด้านสายตาโดยตรง วุฒิปริญญาตรี ทัศนมาตรศาตร์บัณฑิต หลักสูตร 6 ปีเหมือนแพทย์ สามารถแก้ไขปัญหาทางด้านสายตาและมีการนัดติดตามอาการในเคสของคนไข้ที่ต้องมีการติดตามอาการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

วันนี้ร้านแว่นตาออบิทโดยนักทัศนมาตร ร้านแว่นตาน้องใหม่แต่ฝีมือเชี่ยวชาญทางด้านวิชาการและการแก้ปัญหาสายตาได้ตรงจุดที่สุด มาเปิดแล้วที่เชียงใหม่ไม่ต้องไปไกลถึงกรุงเทพ เราวัดสายตาอย่างละเอียด 6 ขั้นตอน ทุกเคส เพื่อแก้ไขปัญหาทุกๆ มิติที่คนไข้พบปัญหาทางด้านสายตา ไม่ว่าจะสายตาสั้น สายตายาว สายตาอียง และเชี่ยวชาญทางด้านเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ร้านออบิทการันตีใส่แว่นตาสบายตา 100% หากใส่ไม่สบายตา ทางเรายินดีเปลี่ยนเลนส์ให้ใหม่จนกว่าจะได้ภาพที่สดใส

ร้านเรามีนักทัศนมาตรหรือคุณหมอสายตาประจำที่ร้าน 2 ท่าน เพื่อให้บริการ คุณลูกค้าหรือคนไข้ทุกๆ ท่านได้อย่างทั่วถึง

บรรยากาศภายในร้านเป็นสไตล์มินิมอลผสมผสาน ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์มืออาชีพ เพื่อให้ความรู้สึกผ่อนคลายในการใช้บริการ มีแว่นตาหลายๆทรงให้เลือกและหลากหลายแบรนด์ที่ให้คุณลูกค้าเลือก

ในส่วนของห้องวัดสายตา เราใช้ห้องขนาดมาตรฐานในการวัดสายตาในระยะ 6 เมตร จะมีอัตราการเพ่ง (Accommodation) น้อยที่สุด หรือเทียบเท่ากับไม่มีเลยก็ว่าได้จึงถือเป็นขนาดของห้องที่ได้มาตรฐาน และให้ค่าสายตาที่แม่นยำ น่าเชื่อถือ หากเทียบกับการใช้บริการในห้องวัดตาที่มีระยะเพียง 2,3 หรือ 4 เมตร ผลของค่าสายตาที่ได้ ก็มีโอกาสคลาดเคลื่อนได้

วัดค่าสายตาเบื้องต้นด้วย Autorefractometer เพื่อให้ทราบค่าสายตาคร่าวๆ ในการวัดสายตา ก่อนที่จะวัดสายตาโดยละเอียดจากเครื่องเครื่องวัดสายตาในกระบวนการอื่นๆ ต่อไป

เราวัดสายตาในห้องมือด้วยเครื่องวัดสายตาหรือ Phoropter แบบ Digital เมื่อแสงน้อยดวงตาเราจะขยายเพื่อรับแสงเพิ่มขึ้น ซึ่งเราจะได้จากการวัดเป็นค่าสายตาที่แท้จริงได้


ตรวจประเมินสุขภาพดวงตาส่วนหน้า โดยเครื่อง Slit lamp

  1. เปลือกตาและขนตา (Upper/Lower Lids, Eyelashes) เพื่อประเมินโรคกุ้งยิง โรคต่อมไขมันที่เปลือกตา
    อุดตัน ขนตาทิ่มเข้าตา หรือแม้กระทั่งโรคเนื้องอกที่เปลือกตา
  2. ตรวจเยื่อบุตาขาว (Conjunctiva) เพื่อประเมินภาวะภูมิแพ้ขึ้นตา การติดเชื้อไวรัส ต้อลมหรือต้อเนื้อ
  3. ตรวจบริเวณตาขาว (Sclera) เพื่อประเมินโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคไขข้ออักเสบ หรือภาวะเลือดออกต่างๆ
  4. ตรวจกระจกตา (Conea) เพื่อประเมินว่ากระจกตาใสเป็นปกติหรือมีสิ่งแปลกปลอมฝั่งอยู่หรือไม่
  5. ตรวจม่านตาและรูม่านตา (Iris,Pupil) เพื่อประเมินการตอบสนองต่อแสงและสีของดวงตาว่าปกติดีหรือไม่
  6. ตรวจเลนส์แก้วตา (Lens) เพื่อประเมินภาวะของต้อกระจกที่มีการเปลี่ยนแปลงตามอายุ
  7. ตรวจช่องหน้าม่านตา (Anterior chamber) เพื่อประเมินความกว้างของมุมตาว่ามีความเสี่ยงของโรคต้อหินหรือไม่
  8. ประเมินภาวะตาแห้ง (Tear meniscus) รวมทั้งจะใช้ Slit Lamp ในการ Fitting Cotact Lens ว่า มีความเหมาะสมกับดวงตาของผู้รับบริการหรือไม่

ต่อมาจะตรวจสุขภาพดวงตาส่วนหลังด้วยเครื่อง Ophthalmoscope สำหรับคนไข้ที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป เพื่อหาอุบัติการณ์ของโรคต้อหิน รวมถึงผู้ป่วยที่มีโรคของหลอดเลือดได้แก่เบาหวาน หรือ ความดันโลหิตสูง

ตรวจสุขภาพดวงตาอย่างละเอียดด้วยเครื่อง Retinoscope

  1. เพื่อตรวจหาค่าสายตาโดยวิธีการ Objective พร้อมประเมินร่วมกับวิธี Subjective ด้วยเครื่อง Phoroptor
  2. ใช้ประเมินค่าสายตาของเด็ก ที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เพื่อป้องกันการเพ่งที่มากเกิน (Over Accomodation)

ตรวจเช็คค่า Intermediate Pupilary Distance (IPD) ด้วยเครื่อง PD meter เพื่อตรวจระยะห่างระหว่างรูม่านตา

การทดสอบสายตาเหล่ ตาเขโดยใช้ Prism

ประเมินภาวะตาบอดสีด้วย Ishihara plates ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม

สามารถทดลองใช้งานเลนส์จริง ได้ในเลนส์ชั้นเดียวและเลนส์หลายชั้น (Progressive Lens) ทั้งการเดิน นั่ง ใช้คอมพิวเตอร์ มือถือ และ การอ่านหนังสือ


เมื่อได้เลนส์ที่สามารถแก้ไขปัญหาทางด้านสายตาเรียบร้อย และมั่นใจว่าเลนส์ที่ได้ ผ่านการวัดสายตาอย่างละเอียดครบทุกระบบแล้ว ผู้รับบริการเลือกแว่นตาที่เหมาะสมกับรูปทรงหน้า เข้ากับค่าสายตา โดยคำแนะนำของนักทัศนมาตร เพื่อให้ได้แว่นตาที่เข้ากับรูปทรงหน้าและพร้อมทั้งเข้ากันกับค่าสายตาที่วัดได้

นำแว่นตาที่ผู้รับบริการเลือก มาปรับทรงแว่นตาให้กระชับใบหน้า และใส่ได้ถูกต้องมากที่สุด มาตรวจวัดด้วยเครื่อง Eye Ruler ในการประกอบการ Fitting แว่น เพื่อให้ค่าที่ได้มามีความจำเพาะกับบุคคลมากขึ้น และแม่นยำที่สุดจาก Essilor

แนะนำเลนส์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณลูกค้าหรือคนไข้อย่างคุ้มค้ากับการใช้งานมากที่สุด โดยนักทัศนมาตรเชี่ยวชาญ รับรองว่าใส่สบายตาและตรงวัตถุประสงค์การใช้งานแน่นอน ทางเราดูแลให้คำปรึกษาการใช้งานแว่นตาตลอดอายุการใช้งาน

เลนส์ที่เราสั่งจะเป็นเลนส์ใหม่ ไม่ใช่เลนส์ค้างสต็อค จึงมั่นใจได้ว่าเลนส์ทุกคู่ได้ถูกสั่งใหม่ทุกๆ คู่ ซึ่งเราเลือกเลนส์ที่มีชื่อเสียง มีมาตรฐาน มีเทคโนโลยีในการผลิตที่ละเอียดและทันสม้ยได้แก่ Zeiss, Essilor, Hoya, TOG, Tokai และ Nikon ซึ่งผู้รับบริการจะได้รับคำแนะนำในการเลือกเลนส์ให้เหมาะสมกับการใช้งานปัญหาทางด้านสายตา ซึ่งเลนส์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นมีเทคโนโลยีการผลิตเลนส์ไม่เหมือนกัน

ร้านแว่นตา Orbit เราใช้เครื่องตัดเลนส์คุณภาพสูง เครื่อง Delta 2 จาก Essilor ซึ่งเครื่องนี้เป็นเครื่องตัดเลนส์ที่ละเอียด แม่นยำ มาตรฐานยุโรป จะมีใช้งานเฉพาะร้านแว่นตาชั้นนำเท่านั้น ซึ่งเรานำมาเพื่อใช้ตัดเลนส์แว่นตาเฉพาะบุคคลเพื่อให้แว่นตาที่ผู้รับบริการสวมใส่ จะได้รับแว่นตาเฉพาะบุคคลที่ดี มีความแม่นยำ และสวมใส่ได้สบายตาที่สุด อีกทั้งช่างตัดแว่นตาเราได้ฝึกอบรมโดย Essilor จนจบหลักสูตร และมีการพัฒนาการประกอบแว่นทุกๆ 3-6 เดือน เพื่อเพิ่มเติมความรู้ในการตัดเลนส์

สุดท้ายเมื่อผลิตและประกอบแว่นเสร็จเรียบร้อย ผู้รับบริการจะได้รับแว่นตาที่มีเลนส์ที่สวมใส่แล้วสดใสและสวมใส่สบายตาทุกคู่ และทางร้านแว่นตา Orbit- โดยนักทัศนมาตร เรามั่นใจว่าแว่นตาที่ตัดจากทางร้านทุกคู่สวมใส่สบาย ด้วยเครื่องมือวัดสายตาที่ครบครันมีคุณภาพสูงรวมทั้งเครื่องตัดเลนส์ที่มีมาตรฐานระดับสากล เราจึงมั่นใจ 100% ว่าสวมใส่ได้สบาย หากไม่สบายตาเราจะทำการเปลี่ยนเลนส์ให้ทันที ไม่มีข้อแม้

ร้านแว่นตาORBIT โดยนักทัศนมาตร ร้านแว่นตาของชาวเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนสุเทพหลัง มช. ร้านอยู่เลยซอยวัดอุโมงค์ 50 เมตร เมื่อขับรถไปคันคลอง อยู่ตรงข้าม มช.
เวลาทำการของร้าน: เปิดทุกวัน 11:00 – 20:00 น. (นัดวัดสายตาได้ทุกวัน)
รถยนต์สามารถจอดฝั่งตรงข้ามร้านได้จ้า ^^ (ห้ามจอดเวลา 15:00 – 18:00 น.)


จองคิวได้ที่

Relate Posts :