“Thailand Domestic MICE Mart 2018” เปิดเวทีสร้างโอกาสธุรกิจให้ผู้ประกอบการไมซ์ครบวงจร กระตุ้นการตลาด พัฒนาศักยภาพไมซ์สู่ภูมิภาค

ทีเส็บจัดงาน Thailand Domestic MICE Mart 2018เปิดเวทีสร้างโอกาสธุรกิจให้ผู้ประกอบการไมซ์ครบวงจร กระตุ้นการตลาด พัฒนาศักยภาพไมซ์สู่ภูมิภาค

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” จัดงาน Thailand Domestic MICE Mart ที่เชียงใหม่และกรุงเทพฯ เน้นรูปแบบใหม่แบบ B2C เพื่อนำเสนอแพ็กเกจการประชุมสัมมนาให้กับลูกค้าพร้อมๆ กับให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และสร้างโอกาสธุรกิจให้ผู้ประกอบการไมซ์ครบวงจร โดยในปีนี้จะเริ่มที่เชียงใหม่และกรุงเทพมหานคร

นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานเปิดงาน​ Thailand Domestic MICE Mart  2018​ พร้อมด้วย​นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดในประเทศ​ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ​ ดร.ไพรัช​ พิบูลย์​รุ่งโรจน์​ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านไมซ์ มหาวิทยาลัย​เชียงใหม่​ Chiang​ MICE​ หน่วยงานที่​เกี่ยวข้อง​ และตัวแทนผู้ประกอบการ​ ร่วมงาน

นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดในประเทศ  เปิดเผยว่า เพื่อเป็นเวทีสำคัญทางการตลาดในการส่งเสริมโอกาสและพัฒนาศักยภาพไมซ์สู่ภูมิภาค ให้ผู้ประกอบการไมซ์ได้มีโอกาสนำเสนอสินค้า และบริการไมซ์ในประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)-ทีเสบ ร่วมกับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านไมซ์ มหาลัยวิทยาลัยเชียงใหม่ (Chiang MICE) จัดงาน Thailand Domestic MICE Mart หรือ TDMM2018 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ งานสัมมนาเพื่อส่งเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไมซ์  กิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Trade Meet) และงานเลี้ยงรับรอง โดยมีจำนวนผู้ขายกว่า 50หน่วยงาน และจำนวนผู้ซื้อกว่า 100 คน​ และไทยเป็นที่หนึ่งผู้นำในอาเซียนของอุตสหกรรมไมซ์ และเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในภูมิภาคก้าวทันอุตสาหกรรมไมซ์และแนวโน้มของตลาด ในประเทศ ทีเส็บจะพัฒนางาน Thailand Domestic MICE Mart ในปีนี้ หรือ TDMM 2018 ให้มีรูปแบบใหม่ แตกต่างกว่าทุกครั้ง จากเดิมที่เป็นงานปิดและเป็นงาน B2B ให้มีลักษณะเป็นงาน B2C โดยจัดตั้งพื้นที่ใหม่เรียกว่า ไทยประชุมไทย รองรับงานแบบ B2C ของงาน TDMM 2018 และเข้าไปจัดตั้งไว้ภายในงานไทยเที่ยวไทยในเดือนกันยายนนี้ เพื่อนำเสนอแพ็กเกจการประชุมสัมมนาให้กับลูกค้าพร้อมๆ กับให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และสร้างโอกาสธุรกิจให้ผู้ประกอบการไมซ์ครบวงจร โดยในปีนี้จะเริ่มที่เชียงใหม่และกรุงเทพมหานคร


ทั้งนี้ตลาดไมซ์ในประเทศในปี 2560 มีมูลค่ากว่าห้าหมื่นล้านบาท ทั้งงานแสดงสินค้า การประชุมองค์กรและสมาคมต่างๆ และการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล แต่รายได้กว่าร้อยละ 80 ยังคงมาจากงานที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ปีนี้ทีเส็บจึงเปิดกลยุทธ์ดันธุรกิจไมซ์สู่ภูมิภาคเริ่มจาก ผลักดันงานเทรดโชว์ออกสู่เมืองไมซ์ ได้แก่ เชียงใหม่ พัทยา ขอนแก่น และภูเก็ต ขยายสู่การจัดประชุมในเมืองที่มีศักยภาพใกล้เคียง เช่น เชียงราย ระยอง อุดรธานี อุบลราชธานี กระบี่ และส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวหลังจบงาน ณ เมืองรองที่เข้าถึงจากเมืองไมซ์ได้สะดวก เช่น ลำปาง จันทบุรี หนองคาย ร้อยเอ็ด พังงา เป็นต้น

โดยปีนี้จะเริ่มที่เชียงใหม่และกรุงเทพมหานคร ซึ่งการส่งเสริมธุรกิจไมซ์ ได้เปิดตัว 7 มหัศจรรย์แห่งล้านนา​ สัมผัส​ประสบการณ์​ 7​ wonder ได้แก่สุดยอดวิถีผู้กล้าล้านนา หรือการท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ ชาล้านนา ข้าวล้านนา ผ้าไหมล้านนา วิถีสุขภาพล้านนา อาหารล้านนา และฮาลาลล้านนา เพื่อใช้สำหรับนำเสนอเป็นจุดขายใหม่ต่อไป

สำหรับการจัดงาน TDMM2018 ที่เชียงใหม่ในปีนี้  นายกฤษณ์​ ธนาวณิช​ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่​ กล่าวว่า เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และแหล่ท่องเที่ยวชุมชน ทั้งยังมีความโดดเด่นทางวัฒนธรรมล้านนา ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี มีโรงพยาบาลในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และมีค่ารักษาที่คุ้มค่ากว่าการรักษาพยาบาลในต่างประเทศ เป็นศูนย์กลางการศึกษาทางภาคเหนือ โดยมีสถานศึกษาชั้นนำจำนวนมาก มีศูนย์ประชุมที่รองรับการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีสถานที่พักที่ได้มาตรฐานจำนวนมาก หลายระดับและมีการให้บริการที่ดี และที่สำคัญสามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวกรวดเร็ว มีจำนวนสายการบินจำนวนมาก

“จังหวัดเชียงใหม่ในฐานะที่เป็นเมืองเป้าหมายให้เป็นเมืองไมซ์ซิตี้” ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมในการพัฒนา เพื่อเป็นกลไกและเครื่องมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านต่างๆ ที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมการจัดการประชุมของประเทศ เพิ่มรายได้เข้าประเทศ รวมทั้งเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการจัดประชุมของประเทศไทยให้ก้าวสู่จุดหมายปลายทางในระดับเอเชียต่อไป


Relate Posts :