จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ จิบชาทั้งทีต้องมีวิวหลักล้าน

เหนื่อยใช่มั้ย เบื่อใช่มั้ย อยากหลบความวุ่นวายออฟฟิตและผู้คนใช่มั้ย ถ้าใช่ ผมจะอยู่ข้างคุณเอง มาพักใจไปด้วยกัน

จะบอกว่าถ้ามันเหนื่อยหรือล้าถึงขีดสุด  เลยอยากชวนมาพัก จิบชากันที่ จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ ขับรถสิบกว่ากิโลจากตัวเมืองมาเส้นหางดง – สะเมิงก็ถึงแล้ว

จันตราคีรี

พิกัด : จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ ออกจากตัวเมืองมาเส้นคันคลอง เลือกเส้นทางหางดง-สะเมิง ตรงยาวมาเรื่อยๆ เจอป้ายบอกทางซ้ายมือขับขึ้นเขาไปประมาณ 500 เมตร

โทร : 052 010 155 / 081 802 0666

Facebook : Chantrakhirichaletchiangmai/ 

ทุกห้องพักมีระเบียงด้วยหละ

ความประทับใจแรกของที่นี่คงหนีไม่พ้นห้องอาหาร ที่ตกแต่งด้วยของเก่าอย่างสวยงามและลงตัว สำหรับคนที่ชอบแนวล้านนาประยุกต์หรือ ชอบของเก่า Antique ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาการได้สัมผัสความสงบกลางหุบเขาที่มีวิวข้างหน้าคือ สระน้ำที่รายล้อมด้วยหินอ่อน ถัดไปเป็นแนวไม้ทอดตัวสู่ดอยสุเทพ – ดอยปุย ซึ่งเป็นมุมด้านหลังของดอยสุเทพ

ขณะที่แดดตอนบ่ายในหน้าหนาวที่ไม่ได้แรงมาก การชื่นชมบรรยากาศความงามของธรรมชาติ และเครื่องดื่มชั้นดีก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

แต่จะเริ่มด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั้นดีก็กะไรอยู่ เรามาเริ่มด้วยชุดเครื่องดื่มเบาๆ อย่าง Afternoon Tea


ความรู้สึกแรกคือ เหมาะกับหน้าหนาวมากๆ แต่แอบคิดในใจว่าที่ไหนก็มี และยิ่งเป็น Tea lover ต่อมสงสัยก็เริ่มทำงานว่าที่นี่มีชาดีอะไรทำไมเราต้องสั่งด้วย

ชาที่นี่ใช้ชาจาก Tea – Kari มาให้เราเลือกกันถึง 4 ชนิด

Silver Needle (White tea) – Skin Detox

Bi Luo Chun (Green tea) – Metabolism

Ginseng (Oolong tea) – Relaxation

Da Hong Pao  (Oolong tea) – Digestion

ต่อมาที่ชุดชาเสิร์ฟมาในชุดลายครามเซรามิก ลืมแบบอังกฤษไปได้เลย โน๊ววววว ไม่มีจ้า บอกแล้วว่าเป็นล้านนาประยุกต์

แนะนำสองตัวที่เราได้ลองคือ Silver Needle (White tea) /Ginseng (Oolong tea) เป็นชาอู่หลง รสสัมผัสขณะดื่มจะหอมสดชื่น ไม่ให้รสขมหรือฝาดแบบทั่วๆไป รสสัมผัส After test หวานลิ้นกลืนน้ำลายยังหวาน (เอาสิ โคตรดี) แนะนำต้องสั่ง

มาฝั่งขนมกันบ้าง ไม่มีคุกกี้นะ อ๊ะ อะ อะ อ้าว มีอะไรที่ดีกว่านั้นคือการออกแบบเมนูอาหารให้เข้ากับรสสัมผัสของชาที่ Tea – Kari ออกแบบมาเฉพาะจันตราคีรีเท่านั้น นั่นไงไปกินที่ไหนก็ไม่ได้ ไปชิลล์ที่ไหนก็ไม่ได้

วิว บรรยากาศ อาหาร และรสสัมผัสของชา เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก

อาหารที่ถูกออกแบบให้เข้ากับชา

ขนมเปี๊ยะ มี 2 ไส้คือมันม่วงไข่เค็ม และถั่วไข่เค็ม


เค้กมี Oreo Cheese Cake, Cheese Cake, red velvet อร่อยมากๆ ยิ่ง Cheese Cake ละมุนมากๆ

ถุงทองทำเอง ซ่อนไส้หมูสับที่หมักเครื่องเทศเฉพาะไว้ด้านใน

แตงโมปลาแห้ง ขนมโบราณที่หาทานยาก ดูเหมือนไม่เข้ากันแต่รสหวานฉ่ำ แตงโมกับปลาแห้งกลับเข้ากันอย่างน่าประหลาดใจ

สับปะรด ม้าฮ่อ อาหารว่างโบราณ หมูสับ พริก ผักชี เป็นความลงตัวที่แนะนำให้ลิ้มลอง

หลบมาพักครึ่งวันบ่าย ก็เก็บภาพบรรยากาศไว้อวดเพื่อนๆกัน

ไม่ต้องคิดว่าเราไม่ได้มาพักที่นี่แล้วจะเข้าไปทานอาหารได้เหรอ แวะมากินน้ำ ดื่มชาก็ได้ ที่นี่พนักงานพร้อมต้อนรับบริการดีมากๆ แต่ถ้าหิวจริงๆก้ไม่ผิดหวังกับอาหารที่นี่ เพราะคัดมาแต่ของดีๆ ทานง่ายอิ่มท้องแน่นอน

สลัดจันตราคีรี สายคลีนจัดเลย
ออเดิฟเมือง จัดเต็มทั้งผัก น้ำพริก ไส้อั่วแคปหมู หมูยอ
ข้าวคลุกกะปิจานใหญ่ที่แน่นด้วยเครื่องเคียง

บาร์ในบ้าน
ห้องนั่งเล่นในบ้าน

ที่นี่มีห้องพักด้วยล่ะ หรือจะพักบ้านเป็นหลังก็มี หลังหนึ่งนอนได้ สี่คน หารกันชิลล์ไปอีก มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว พื้นที่ทำกิจกรรมรับหน้าหนาวกันให้ม่วนใจ๋ไปเลย ด้วยการออกแบบที่หยิบความเป็นล้านนามาประยุกต์ให้ร่วมสมัย เราว่าคงเหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ชอบเรื่องรายละเอียด ไม่หวือหวาและมาดื่มด่ำกับช่วงเวลา


นอกจากนี้ยังมีแบบเป็นห้องพักด้วยหละ ตกแต่งเป็นแนว Colonial Style (สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล) ให้ความรู้สึกโล้งโปร่งสบายและมีกลิ่นอายตะวันตกที่หลอมรวมกับล้านนาได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีระเบียงให้รับลมหนาวดูดาว อ่านหนังสือ หรือจิบชาในยามเช้า

ห้องโอ่โถงเปิดรับลมชมดาวได้สบายเลย
เตียง king size กับอ่างอาบน้ำสุดหรูที่ชมวิวดอยได้ด้วย
เตียงคู่ก็มีนะ เผื่อยังไม่สนิทกันก็นอนแยกเตียงกันก่อน

มาถ่ายรูปกับมุมน้ำตกกันได้นะ
พลบค่ำโรแมนติกมากแนะนำ
ทานอาหารตอนเย็น กับแสงสุดท้ายของวัน

นั่งเรื่อยๆปล่อยไหลเวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว จะดินเนอร์กับครอบครัว หรือคนรักก็ดีนะ อยากแนะนำให้จองโต๊ะริมสระนะ แสงเทียน กับลมเย็นๆ จากดอยสุเทพ และอาหารที่ถูกออกแบบจากเชฟจะทำให้วันเหนื่อย ๆ ที่เราหลบมาพักแค่ครึ่งวันกลายเป็นวันพิเศษ เลยล่ะ

Relate Posts :