สถิติเผย เชียงใหม่มียอดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เจ็ดเดือนแรกสูงกว่าตลอดทั้งปี 2561 แพทย์แนะเมื่อเป็นต้องรีบรักษา ลดโอกาสแพร่กระจายสู่คนรอบข้าง

ศาสตราจารย์ ดร.พญ. เพณณินาท์ โอเบอร์ดอร์เฟอร์ (กลาง) หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ และทีมงานจากคณะแพทย์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยคุณกุลธิดา ลีนะบรรจง (3 จากขวา) หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท โรช ไทยแลนด์ จำกัด จัดงานแถลงข่าวภายใต้หัวข้อ ไข้หวัดใหญ่ รู้เร็ว รักษาก่อน ลดการแพร่กระจาย นวัตกรรมใหม่สู่แนวการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ด้วยยาต้านไวรัส ณ โรงแรมแคนทารี่ ฮิลส์ จังหวัดเชียงใหม่

21 สิงหาคม 2562, ประเทศไทย – ข้อมูลจากรายงานโรคจากระบบเฝ้าระวัง ของสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุขเผยสถิติที่น่าตกใจของโรคไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 6 สิงหาคม 2562 พบผู้ป่วยแล้วกว่า 13,460 รายและผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยเจ็ดเดือนแรกปี 2562 สูงกว่าตลอดทั้งปีของ 2561 ที่มีจำนวนผู้ป่วย 10,863 ราย และไม่พบผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ยังมีคนไทยจำนวนมากที่เข้าใจว่า เมื่อเป็นโรคไข้หวัดใหญ่แล้วหายเองได้ และเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่สามารถระบาดไปยังผู้คนรอบข้าง และมีโอกาสพัฒนาไปสู่ภาวะแทรกซ้อน จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ศาสตราจารย์ ดร.พญ. เพณณินาท์ โอเบอร์ดอร์เฟอร์

“ในช่วงฤดูฝน ประชาชนทั่วไปควรสังเกตอาการของตนเองและผู้คนรอบข้าง หากมีไข้สูงติดต่อกันเกิน 48 ชั่วโมง ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ซึ่งจะเข้าไปยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในร่างกายไม่ให้อาการรุนแรงได้เร็วขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงในช่วงของการแพร่ระบาดไปยังบุคคลรอบข้างด้วย โรคไข้หวัดใหญ่จึงเป็นโรคที่ยิ่งหายเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดีสำหรับตนเองและคนรอบข้างเท่านั้น” ศาสตราจารย์ ดร.พญ. เพณณินาท์ โอเบอร์ดอร์เฟอร์ หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าว

โรคไข้หวัดใหญ่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังประจำปี 2562 โดยข้อมูลถึงวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา พบผู้ป่วยในประเทศไทย 217,161 ราย และเสียชีวิต 16 ราย เชียงใหม่มีอัตราป่วย 790.25 ต่อแสนประชากร ซึ่งอยู่ในอันดับ 4 จากทั้งหมด 77 จังหวัดรองจาก ระยอง กรุงเทพมหานคร และจันทบุรี1 โดยพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สูงที่สุดอยู่ที่อำเภอสันทราย ตามมาด้วย อำเภอเมือง และอำเภอแม่ริม

ไข้หวัดใหญ่จะมีอาการคล้ายไข้หวัด


“ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีอาการคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา ทั้งยังติดต่อไปยังคนอื่นๆ ได้ง่ายผ่านการไอหรือจาม โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่อาจแพร่เชื้อได้นาน 3 – 5 วัน นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อทางอ้อมผ่านการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อได้ การรู้จักรักษาและป้องกันตัวเองเมื่อเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ จึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการคำนึงถึงผู้อื่นในสังคม และเคารพต่อสิทธิสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว และมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาที่แห่งนี้ตลอดเวลา” ศาสตราจารย์ ดร.พญ. เพณณินาท์ กล่าวเสริม

โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์ คือ A, B, C และ D โดยสายพันธุ์ A และ B เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งประเทศไทยมีแนวโน้มพบการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลของสายพันธุ์ B มากกว่าสายพันธุ์ A โดยสายพันธุ์ B จะไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ A และไม่สามารถติดต่อระหว่างคนกับสัตว์ได้

อาการแทรกซ้อนที่พบจากการป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ อาทิ หายใจเร็ว มีปัญหาด้านการหายใจ มีอาการเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อ แน่นหน้าอกและช่วงท้อง อาเจียนบ่อย มีอาการแพ้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และอาจมีโรคแทรกซ้อน ได้แก่ การติดเชื้อในอวัยวะต่างๆ หลอดลงอักเสบ ปอดบวม ปอดอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หัวใจวาย ซึ่งอาการที่รุนแรงขึ้นเป็นผลมาจากหลายปัจจัย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงสูงที่ไวรัสไข้หวัดใหญ่จะส่งผลให้อาการของโรคเดิมที่เป็นอยู่ทรุดหนักลง 

การรีบรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ จึงเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ด้วย

ปัจจุบัน ในประเทศไทยมียาต้านไวรัสหลายแขนงอยู่ในตลาด อันเกิดจากการพัฒนาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้เกิดการรักษาที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้ป่วย ทั้งในแง่ของการลดความรุนแรงของโรค ซึ่งถือเป็นการลดโอกาสที่จะเกิดการแพร่กระจายของเชื้อไปสู่คนรอบข้างด้วย


เกี่ยวกับ โรช – มุมมองด้านโรคติดต่อ


โรคติดต่อที่มีแหล่งกำเนิดมาจากไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตและการเจ็บป่วยทั่วโลก ซึ่งทำให้มีความต้องการทางการแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น โรช จึงได้ก่อตั้งหน่วยงานหลักในการทำวิจัยและพัฒนาขึ้น โดยมีโปรแกรมการพัฒนาทางคลินิกซึ่งมุ่งเน้นไปที่การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบี โรคไข้หวัดใหญ่ และยาหลากหลายแขนงเพื่อต้านการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรีย โรช มุ่งมั่นที่จะพัฒนายาเพื่อให้เกิดความเป็นเลิศ ให้การบำบัดรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และทุกคนสามารถเข้าถึงได้

เกี่ยวกับ โรช

โรช เป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่เป็นผู้พัฒนาวิธีการรักษาแบบพุ่งเป้าออกฤทธิ์เฉพาะที่ควบคู่กับการตรวจวินิจฉัยโรค โดยมุ่งเน้นไปที่การผลักดันความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์เพื่อมอบชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้ป่วย การที่โรชผนวกรวมการศึกษาวิจัยทางยาที่ล้ำสมัยเข้ากับการวินิจฉัยโรคภายใต้บริษัทเดียวกัน ทำให้โรชเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการมอบการรักษาที่ถูกต้องให้กับผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

โรช เป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลกในเรื่องเทคโนโลยีชีวภาพ (ไบโอเทค) ซึ่งมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการไขความกระจ่างเรื่องสาเหตุการเกิดโรคในระดับโมเลกุล มีการวิจัยและพัฒนายาในด้านวิทยามะเร็ง ภูมิคุ้มกันวิทยา โรคติดเชื้อ จักษุวิทยา และประสาทวิทยา นอกจากนี้ โรช ยังเป็นผู้นำระดับโลกในด้านงานวินิจฉัยโรคผ่านระบบการตรวจวินิจฉัยโรคในห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยโรคมะเร็งในระดับเนื้อเยื่อ รวมไปถึงการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และระบบบริหารจัดการการดูแลภาวะเบาหวาน

ก่อตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2439 โรช มุ่งมั่นในการคิดค้นหนทางในการป้องกัน วินิจฉัย และรักษาโรคที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมๆ กับมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนให้กับผู้คนในสังคม บริษัทยังมุ่งเน้นในการเข้าถึงนวัตกรรมความเป็นเลิศของยารักษาโรคและยกระดับชีวิตของผู้ป่วย โดยการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบัน มียาจำนวน 30 ชนิดที่พัฒนาขึ้นโดยโรชที่ได้รับการบรรจุอยู่ในรายการยาจําเป็นที่แนะนําโดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organization Model Lists of Essential Medicines) เช่น ยาปฏิชีวนะรักษาชีวิต, ยาต้านมาลาเรีย และยาเคมีบำบัด เป็นต้น โรชยังได้รับการยอมรับให้เป็นบริษัทที่มีความยั่งยืนในอุตสาหกรรมยา จาก ดัชนีชี้วัดความสำเร็จขององค์กรที่ยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices) เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีติดต่อกัน

สำนักใหญ่ของ โรช กรุ๊ป ตั้งอยู่ที่ บาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีสำนักงานตั้งอยู่มากกว่า 100 ประเทศ ในปี พ.ศ. 2560 โรช มีพนักงานกว่า 94,000 คนทั่วโลก และในปีเดียวกัน โรช ได้ลงทุนให้กับการวิจัยและพัฒนาไปกว่า 10.4 พันล้านฟรังก์สวิส และมียอดจำหน่ายถึง 53.3 พันล้านฟรังก์สวิส นอกจากนี้ โรชยังได้ผนวกรวมเจเนนเทคในสหรัฐฯ เข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่ม โรช กรุ๊ป และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของชูไกในญี่ปุ่น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.roche.com 

Relate Posts :