ลีลาวดีที่ร่วงโรย พบกับมือปริศนาเจ้าของผลงานพุ่มดอกไม้หน้าหอศิลป์

ใครได้เดินผ่านไปบริเวณด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรม บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อาจสังเกตไปเห็นพุ่มไม้ที่ถูกตกแต่งประดับประดาไปด้วยดอกลีลาวดีที่ร่วงหล่นลงพื้นเป็นลวดลายสวยงามอยู่พุ่มหนึ่ง บางคนอาจสงสัยว่าใครหนอเป็นคนทำ ผู้คนที่เดินผ่านไป ผ่านมา รวมทั้งนักท่องเที่ยวบางส่วนหยุดมองและถ่ายรูป บางคนเพียงแค่หันมามองแล้วเดินผ่านไป ถัดไปตรงมุมที่นั่งศาลาเล็กๆ ติดกับพุ่มไม้นั้น

1
พี่เบิ้ม เจ้าของมือปริศนา ผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากดอกลีลาวดี

ตะวันจัดจ้านของช่วงเวลาเที่ยงวัน สาดลงกลางศีรษะหนุ่มใหญ่คนหนึ่งนั่งพักหลบแดดในอิริยาบถท่าทางสบาย ผมเดินเข้าไปหาแกเพื่อถามหาผู้ชายคนหนึ่งในรูป เมื่อคืนผมมาเดินหาอยู่รอบหนึ่งแล้วแต่ยากเกินจะคาดเดาว่าชายสวมเสื้อสีน้ำเงินในภาพที่นั่งก้มหน้าปักดอกไม้ลงในพุ่มนั้นหน้าตาเป็นอย่างไรไปถามไถ่คนในละแวก ได้ความว่า เขาอาศัยอยู่บริเวณนี้ “อ๊อ เขาชื่อเบิ้ม อยู่แถวนี้ล่ะ เขาเป็นคนทำ (เขาเป็นขี้เหล้า)” คำในวงเล็บทำให้ผมรู้สึกประหม่าอยู่นิดๆ ว่าจะสามารถสื่อสารพูดคุยกับเขารู้เรื่องไหม

2
พุ่มดอกลีลาวดีมีลวดลายแตกต่างกันไปในแต่ละวัน

“พี่ครับ พี่พอจะรู้จักลุงเบิ้มไหมครับ?” แกหันมาสบตา “ผมเองครับ” พี่เบิ้ม ชายหนุ่มวัย 44 ปี ดูแข็งแรง แตกต่างจากชายในรูปที่ผมเดาว่าคงอายุราว 60 ปลายๆ ด้วยท่านั่งที่มีบุคลิคนั่งหลังค่อมจากอุบัติเหตุแต่ไม่ได้พิการทางกายภาพหากดูผิวเผินก็เหมือนชายชราคนหนึ่ง ผมเดินมาถามถูกคนจึงแนะนำตัวเองคร่าวๆ ว่าจะมาทำอะไรและขออนุญาตเรียกแกว่าพี่แทนคำว่าลุงแกมีรอยยิ้มออกมาให้เห็นแม้จะดูสลึมสลือพูดจาอ้อแอ้บ้าง เพราะเพิ่งตื่นนอนแต่แกก็นั่งตั้งใจฟังให้ผู้มาเยือนซักถาม


6
พุ่มดอกลีลาวดีโดดเด่นสะดุดตา ใครผ่านไปมาก็สังเกตเห็นได้ชัดเจน

ขณะเดียวกันเพื่อนของแกอีกสองคนเดินมาพอดีในมือหิ้วถุงพลาสติกที่บรรจุสุราขาวในขวดสีน้ำตาลเพื่อนแกบอก คนนี้เลยที่ทำพร้อมชี้มือไปที่พี่เบิ้มเหมือนเด็กโดนจับผิดพี่เบิ้มหันมาบอกผม “ผมเป็นขี้เหล้าน่ะ” ขณะนี้ประเด็นความน่าสนใจผมไม่ใช่อยู่ที่แกเป็นขี้เหล้า ผมเปิดเครื่องบันทึกเสียงและตั้งคำถามที่ไม่ได้เตรียมมา

3
มีผู้แวะเวียนมาถ่ายรูปเป็นประจำ

: ไม้ประดับพุ่มนี้พี่เป็นคนแต่งหรือแล้วดอกไม้พี่ก็เก็บเอาแถวนี้?
: ครับผม ดอกที่ร่วงแถวนี้ เต็มไปหมด
: ทำไมถึงเก็บมาล่ะครับ? (ในขณะที่ตั้งคำถามขึ้นมาผมก็เกรงว่าจะทำไปกระทบอารมณ์แกหรือเปล่า?)
: ดอกที่มันร่วงลงมา ดูแล้วมันเฉยๆ ไม่มีค่า ดูไม่สวย เดี๋ยวก็เหี่ยว คนก็เดินเหยียบ เดี่ยวก็โดนกวาดเอาไปทิ้งเลยเอามาแต่งดูเห็นว่ามันสวยดี
:ตกแต่งในทุกเช้า?
: ส่วนมากผมจะแต่งตอนกลางคืนเพราะตอนกลางวันแดดมันจะร้อนลวดลายก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ? แล้วแต่ความคิดแต่ละวันว่าแต่งออกมายังไงให้ดูสวย ดอกก็สับเปลี่ยนทุกวัน บางดอกมันเหี่ยว แถวนี้ดอกลีลาวดีร่วงเต็มเลย ป้าที่มารำไทเก๊กช่วงเช้ามืดทุกๆ วัน แกจะถ่ายรูปไว้มีหลายลายเลยในกล้องมือถือแก
: อยากให้พี่เบิ้มเล่าถึงความรู้สึกขณะที่เก็บดอกไม้มาประดับ?
: คือผม ตกงานครับ ไม่มีงานทำ พอว่างๆ นั่งมองเห็นดอกไม้มันร่วงเต็มพื้น เลยไปหยิบเอามาปัก ตกแต่งลงในพุ่มไม้ใกล้ๆ นี่ล่ะ เห็นว่ามันสวยเลยทำมาเรื่อยๆ

5
หนูน้อยแวะมาตกแต่งพุ่มดอกไม้

: ทำมานานยังครับ?
: หลายเดือนแล้วครับ ทำทุกคืน แต่ไม่ได้นับว่ากี่เดือน ทำเสร็จผมก็เดินไปที่อื่น
: พี่อาศัยอยู่แถวนี้ บริเวณนี้ก็คล้ายๆสวนในบ้านที่ต้องคอยตกแต่งดูแล?
: ครับผม….ไม่งั้นพนักงานเขาก็กวาดทิ้งไปเฉยๆ
: พี่เบิ้มรู้ไหมมีหลายคนสนใจในสิ่งที่พี่ทำ? (แกยิ้มกรุ้มกริ่ม)
: ส่วนมากคนจะเห็นตอนผมนั่งแต่งในตอนกลางคืน พอแต่งเสร็จผมก็เดินไปนู่น ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ มืดด้วย
: อยากให้พี่เบิ้มเล่าถึงแนวคิดในสิ่งที่ทำ
: คือบริเวณนี้มีนักท่องเที่ยวผ่านไปผ่านมาเยอะ เราก็ต้องจัดให้ดูดี ไม่เลอะเทอะ บางคนเขาก็หยุดถ่ายรูปนี่เป็นร้อยกว่าคนแล้ว ที่มาถ่ายรูป เมื่อคืนก็มีใครก็ไม่รู้มาถ่ายรูป แสงแวบๆ ผมนั่งดูอยู่อีกฟากหนึ่ง
: มีอะไรอยากฝากถึงคนที่เดินผ่านไปมาไหมครับ?
: (แกนั่งนิ่งเหมือนจะคิดอะไร) ไม่มีครับ (ยิ้มกรุ้มกริ่ม)


7
พี่เบิ้มถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านพุ่มลีลาวดี

บ้านและที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนมีความหมายต่อชีวิตที่ให้ความมั่นคงในเรื่องของความเป็นอยู่ ความสุขสบายแต่สำหรับคนไร้บ้าน เราอาจจะเรียกว่า “คนจรหมอนหมิ่น” ไม่มีหัวนอนปลายเท้า บางคนอาจผิดหวังจากบางสิ่ง บางคนอาจสูญสิ้นเนื้อประดาตัวและบางคนอาจเลือกที่จะก้าวออกมาจากบ้านเพื่อวางหรือละทิ้งบางอย่าง แม้แต่การออกไปเร่ร่อนรอนแรมแสวงโชคแบบไปตายเอาดาบหน้าในทุกๆ ค่ำเช้าคล้ายปล่อยให้วันเวลากลืนกินชีวิตหากว่าเราไม่ทำอะไรเลย

4
บางครั้งคนเราก็ออกเดินทางเพื่อพบเจอกับความงดงามระหว่างทาง

สำหรับพี่เบิ้มนั้นอาจจะไม่ใช่ศิลปิน แต่คนที่มีความคิดสร้างสรรค์มีสุนทรียภาพในการมอง แฝงซ่อนอยู่ภายในจิตใจนั้น ก็ไม่ต่างจากคนวัยหนุ่มที่คอยแต่งเติมสิ่งรอบข้างให้น่ามองและมองเห็นสิ่งที่ดูไร้ค่าที่ร่วงโรยไปให้กลับมามีคุณค่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง ดอกลีลาวดีที่ร่วงโรยหลากร้อยบนพื้นดินมีผู้คนเดินย่ำเหยียบเหมือนถูกซ้ำเติมวันแล้ววันเล่าจนกลายเป็นสิ่งโสโครกสกปรกที่รอการถูกนำไปทิ้ง ถูกนำมาประดับประดาเรียงรายสวยงามน่ามอง แม้ว่าดอกนั้นจะเคยร่วงหล่นจากต้นแล้วก็ตาม ดอกลีลาวดีไม่รู้หรอกว่าชะตาชีวิตหลังการพลัดพรากร่วงหล่นจากต้นแม่นั้นจะเป็นอย่างไร เช่นเดียวกันกับคน สายลมอาจเป็นตัวกำหนดโชคชะตาและวันเวลาจะทำให้เรากล้าแกร่ง เรามอง เราให้คุณค่าและศักดิ์ศรีในความเป็นคน แบบไหน?

[wpgmza id=”18″]

Relate Posts :