Lost in Thailand ความสนุกที่น้อยยิ่งกว่าละครหลังข่าว

ผิดหวังตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าเทียบกับกระแสของหนังเรื่องนี้ที่อวดอ้างสรรพคุณว่ามีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนแห่มาเที่ยวเชียงใหม่ แถมยอดเข้าชมและรายได้ถล่มทลายเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศจีน เรียกว่าสร้างความกระสันให้อยากไปเข้าชมเสียเหลือเกิน แต่เนื่องจากช่วงเข้าโรงผมไม่มีโอกาสได้ดู เลยต้องรอออกแผ่นกว่าจะได้ชม

ดูจบต้องขอบอกว่าผิดหวังโคตรๆฮะ ละครหลังข่าวยังสร้างได้ดีกว่านี้ พล็อตเรื่องเดิมๆ ที่เห็นจนเอียน ไม่มีอะไรตื่นใจในการอยากดูจนจบแม้แต่น้อย เช่น…

1. ตัวละครที่คอยสร้างเสียฮาและพยายามสร้างความวุ่นวายให้ตัวเอกของเรื่อง ขาดความพอดี คือไม่ตลกเลย ฝืดมาก เรียกว่าไร้รสนิยมในการเรียกเสียงหัวเราะอย่างสิ้นเชิง


2. ตัวร้ายที่ไร้พิษสง คือโคตรหมดน้ำยาในการสร้างความน่าติดตามสุดๆ จินตนาการได้ง่ายๆว่าถ้าหลุดมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง บทน่าจะหมดตั้งแต่ 5 นาทีแรกของเรื่องด้วยซ้ำ

3. นางเอกไม่มี ดาราสาวไม่เด่น คือมันจืดสนิท เรียกว่าเป็นจุดบอดของเรื่องเลย ตัวละครหญิงที่น่าจะช่วยสร้างอะดรีนาลีนให้น่าติดตาม กลับกลายว่าไม่มี ถึงมีทีเด็ดตอนท้ายเรื่องก็สายไปแล้ว  เพราะต้องทนดูตัวละครชาย 2 คนต่อมุขแป๊กกันไปสุดเรื่อง

4. ความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่เอามาจับยำแบบโคตรไม่ลงตัว พอปูพื้นไม่ดี มันเลยดูจับแพะชนแกะแบบไม่มีเหตุผล ดูหนังเรื่องนี้แล้วผมนึกถึงหนัง due date แฮะ มันคล้ายกันมาก จะแตกต่างก็แค่เหตุผลในการเดินทางไม่เหมือนกันเฉยๆ


5. ไม่เข้าใจว่าดูจบแล้วทำให้อยากมาเที่ยวเมืองไทยตรงไหน หนังพยายามสร้างเหตุการณ์สำคัญ ให้มาอยู่ในอาทิตย์เดียวจบ ซึ่งผมมองว่ามันเฟคมากๆ ไม่ตื่นใจหรือเพิ่มความตื่นตัวได้แม้แต่น้อย ไปดูคลิปโปรโมทเที่ยวเมืองไทยในยูทูปยังดีกว่า

6. ด้วยความที่มันเป็นหนังตลก แต่ไม่ตลกเลย จำไม่ได้แม้่แต่น้อยว่าเผลอยิ้มให้หนังไปหรือเปล่า สิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้คงมีแค่การตัดต่อ ที่ทำให้กระชับ ฉับไว ดูแล้วไม่อืดอาด ไม่งั้นคงน่าเบื่อมากกว่านี้หลายปีแสง

สรุปว่าผิดหวังมากครับกับเรื่องนี้ เรียกว่าเป็น fail of the year ของตัวเองตั้งแต่ต้นปีก็ว่าได้ ถ้าเทียบกับกระแสที่ออกมาแรงจนคนเชียงใหม่หันมาด่าคนจีนกันเต็มบ้านเต็มเมือง จบ*

Relate Posts :