“Omakase” ที่สุดของความเมพขิงๆ 5 ร้านอร่อยจริง เมืองเชียงใหม่

 เคยมีประสบการณ์ตื่นเต้นกับสิ่งที่เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะได้กินอะไรบ้างไหม ในประเทศญี่ปุ่นเรียกการกินอาหารแบบนี้ว่า “Omakase” ซึ่งเป็นการทำซูซิจากใจของเชฟส่งตรงถึงลูกค้าโดยที่เราไม่สามารถเลือกได้ และในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยรวมถึงเชียงใหม่ จึงมีร้านเล็กๆปิดขึ้นมาเพื่อเอาใจลูกค้าที่ชอบความตื่นเต้นโดยเฉพาะ ในเชียงใหม่มีร้านไหนน่าสนใจ ตามเจ๋งมา!!

1. Suntori – มือมีดจอมฉมัง ไม่มีปลาเราไม่ขาย

พิกัด : โครงการสหศรีภูมิ ช้างเผือก
เวลาเปิด-ปิด : 11.00-14.00 น. และ 17.30-22.00 น. เปิดวันเสาร์ – อังคาร
เบอร์โทร : 053-287209 , 087-0238898
เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับความอร่อยตามใจเชฟตัวจริง เนื่องด้วยความจำกัดในเรื่องของวัตถุดิบที่เชฟจะต้องขับรถออกไปสรรหาวัตถุดิบที่เกาะศรีราชาทุกสัปดาห์ จึงไม่มีทางทราบได้เลยว่ารอบนี้จะได้วัตถุดิบอะไรติดไม้ติดมือมา แต่เชฟสมบัติยืนยันว่าคัดสรรมาเป็นอย่างดีเหมือนทำให้คนในครอบครัวทาน

เชฟสมบัติ ทรายกองคำ เชฟอาหารญี่ปุ่นระดับปรมาจารย์กับประสบการณ์ในวงการอาหารญี่ปุ่นมากว่า 42 ปี
กุ้ง กั้ง ปลา ปลาหมึกสดใหม่ส่งตรงจากทะเลอ่าวไทยในแต่ละสัปดาห์ไม่ต่ำกว่า 20-30 ชนิด แต่ถ้าหากอยากทานวัตถุดิบแปลกใหม่สามารถสั่งเชฟก่อนล่วงหน้าได้อย่างน้อย 1 สัปดาห์ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับฤดูกาลของวัตถุดิบด้วย เพราะเชฟคัดสรรแต่ของที่มาจากธรรมชาติ ไม่ใช้ที่เลี้ยงในกระชัง ใช้เฉพาะที่ตกเบ็ดมาเท่านั้น ดังนั้นหากอยากทานของดีที่สุดต้องตามใจเชฟนะจ๊ะ

Kuruma Ebi Shasimi ราคาขึ้นอยู่กับขนาดกุ้งที่ลูกค้าเลือก แต่ขนาดที่ถ่ายรีวิวนี้ ราคา 380 บาท

Ikaito Usuzukuri หมึกกระดองสไลด์ขนาดเล็ก 180 บาท

บรรยากาศในร้านเป็นร้านเล็กๆมีไม่กี่โต๊ะ หากใครอยากมาทานของสดใหม่แนะนำให้มาวันเสาร์และโทรจองโต๊ะก่อน
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

2. Blackitch Artisan Kitchen – ใส่ใจทุกจานบริการประทับใจ

พิกัด : ถนนนิมมาน ฯ ซ.7 บนชั้น 2 ร้าน Gelabar
เวลาเปิด-ปิด : จ. 18:00 – 22:00 น. อ. – อา. 11:00 – 16:00 น. และ 18:00 – 22:00 น.
เบอร์โทร : 084-3231952
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Omakase หนึ่งในร้านที่อยากแนะนำ คือ Blackitch Artisan Kitchen ร้านญี่ปุ่นต้นตำรับกลิ่นอายตะวันตก สไตล์ Contemporary + Authentic + Modern เปิดมานานกว่า 3 ปี ฝีมือเชฟต้องบอกว่าไม่เป็นสองรองใคร ด้วยประสบการณ์การเรียนมาจากสถาบัน Tsuji ประเทศญี่ปุ่น และเคยเป็นเชฟอยู่ร้าน Hatena ย่านนิมมานมาก่อน จึงมีลูกค้าหลายท่านต่างติดอกติดใจรวมถึงชาคริต แย้มนาม พิธีกรรายการเชฟกระทะเหล็กมักจะมาทานอยู่เป็นประจำ
อาหารที่บริการมีทั้งญี่ปุ่น ฝรั่งเศสและไทย แบ่งเป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือ ช่วงกลางวันบริการแบบ A La Carte ส่วนช่วงเย็นบริการแบบ Chef Table  เมนูขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในแต่ละวัน ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ได้ลิ้มลองกันจากทั่วทุกมุมโลก แต่หากลูกค้าอยากทานเมนูพิเศษสามารถสั่งเชฟล่วงหน้าได้ 1 อาทิตย์ จะมา 1- 3 คน เชฟก็พร้อมบริการ ราคาขั้นต่ำ 1000 บาท / คน รวมของหวาน

เชฟแบล็ค วิศรุต บุลสุวรรณ เชฟด้านอาหารญี่ปุ่นกลิ่นอายตะวันตก ได้รับรางวัลการันตีจากหลายสถาบัน
Three King of Shell รวมเมนูสุดรังสรรค์ทั้งจากหอยเซลล์ฮอกไกโดคลุกเคล้าใน Salsa มะม่วง หอยหวานอบเนยกระเทียม และหอยนางรม Garlax ราคา 300 บาท

ร้านตั้งอยู่บนชั้น 2 ของร้าน Gelabar
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

3. Cook With Love – ด้วยรักจากหัวใจเชฟ

พิกัด : ถ.ราษฎร์อุทิศ ซ.8
เวลาเปิด-ปิด : 12.00 – 15.00 น. และ 18.00 – 22.00 น. ทุกวัน
เบอร์โทร : 085-6163966
อีกหนึ่งร้านที่กำลังเป็นกระแสในโลก Social Media ถึงความโด่งดังในเรื่องของวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีอย่างกุ้งล็อบสเตอร์ เนื้อมัตสึซากะ เนื้อม้าบาซาฉิ เนื้อปลาแซลมอน หอยเม่น ที่นำเข้ามาอาทิตย์ต่ออาทิตย์ไม่มีเก็บค้าง เรียกได้ว่าวัตถุดิบจากทั่วทุกมุมโลกส่งตรงมาให้คนเชียงใหม่ได้ลิ้มลอง
เมนูอาหารที่นี่มีบริการจัดเซ็ทเริ่มต้นตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป ในราคาเริ่มต้น 1500 บาท พร้อมอาหาร 7-8 เมนู แต่ถ้าหากอยากทานนอกเหนือจากในเมนู ลูกค้าสามารถกำหนด Cost และชนิดเมนูที่จะทานมาให้เชฟได้เลย แต่ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
เชฟโชค – ศุภโชค พงษ์สวัสดิ์ เชฟอาหารญี่ปุ่นมือฉมังกับประสบการณ์ที่โลดแล่นในวงการมากว่า 10 ปี คอยมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้ลูกค้าในแต่ละวัน
เมนูตามใจเชฟ ปูซูไวนิกิริ ไข่ม้วนห่อปลาไหลย่าง ปูซูไวครีมเห็ด รสชาติกลมกล่อมอร่อยลงตัว และยำเนื้อมัตสึซากะ เนื้อนุ่มแทบละลายในปาก
บรรยากาศในร้านเป็น Home Cooking เล็กๆมี 4-5 โต๊ะ ในแต่ละรอบจึงต้องโทรจองก่อน แต่เร็วๆนี้จะเปิด 2 สาขา บริเวณด้านหน้าร้าน The Glass House ถนนราชภาคินัย ซึ่งจะเป็นครัวเย็น จำหน่ายอาหาร Set
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

4. Magnolia by Pinnfood – Good Taste Great Service

พิกัด : ถนนรัตนโกสินทร์ ข้างโรงแรม Sleep box
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-22.00 น. ทุกวัน
เบอร์โทร :  053-872395
หากใครที่มีโอกาสได้ดูรายการเชฟกระทะเหล็กคงคุ้นหน้าค่าตาของเชฟเอียนเป็นอย่างดี หนึ่งในร้านอาหารในเชียงใหม่ที่เชฟเอียนมักจะคอยมาโชว์ Chef Table อยู่ประจำคือ Magnolia By Pinfood นั่นเอง ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆย่านถนนรัตนโกสินทร์ ที่มีลูกศิษย์เชฟเอียนหลายท่านคอย Create เมนูสุดพิเศษให้ลูกค้าในแต่ละวัน แต่หากต้องการมากกว่าที่มีสามารถโทรแจ้งเชฟล่วงหน้าก่อน 1 สัปดาห์
เมนูมีหลากหลายให้เลือก ช่วงกลางวันเป็นเมนูอาหารไทยทานง่าย เช่น กะเพรา, หมูกระเทียม ผัดไทย ส่วนช่วงเย็นจะเป็นอาหารแบบ Western Dinner ที่นำทีมดูแลโดย “เชฟขุน” จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่วัตถุดิบที่ใช้จะเน้นเนื้อนำเข้าเกรดคุณภาพจากออสเตรเลีย  อีกทั้งยังมีเนื้อแกะ อาหารทะเลสดๆ ไว้คอยบริการ เรียกได้ว่าหากคุณคิดไม่ออกว่าจะทานอะไร สามารถกริ๊งบอกเชฟจัดให้ได้เลย

เชฟขุน – ฐาปกร อุปกุล เชฟใหญ่แห่ง Magnolia  คอย Create เมนูใหม่ให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง
ใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบจนถึงการตกแต่งจาน


ผัดไทยกุ้งสด 90 บาท/ สปาเก็ตตี้แมคโนเลียพริกกะเหรี่ยง 160 บาท / Wagyu Chef Select 550 บาท ที่สุดของเมนูสุดรังสรรค์จากใจเชฟ

บรรยากาศด้านในเน้นตกแต่งด้วยสีสันสวยงาม รับจัด Dinner ช่วงเย็น และมีไวน์จาก Wine Gallery จำหน่ายด้วย
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

5. Chef by Rim Tara – ถ้าอยากกินพิซซ่าต้องมาหาผม

พิกัด : โครงการ The Fifth Avenue  กาดรวมโชค ถนนสันทราย-พร้าว
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 21.00 น. หยุดวันพุธ
เบอร์โทร : 095-6868185
จากอดีตเชฟใหญ่ในโรงแรม Rimtara ผันตัวมาเปิดร้านอาหารเมื่อ 10 เดือนก่อน เชฟเอ๋ – เพิ่มพูล เรืองวิลัย หนุ่มใหญ่ที่ชื่นชอบการทำอาหารจนสั่งสมประสบการณ์ในวงการนี้มาหลายปี เมนูอาหารที่นี่เป็นอาหารสไตล์นานาชาติ มีบริการทั้งสลัด สเต็กและที่พลาดไม่ได้คือพิซซ่า ซึ่งลูกค้าทุกท่านสามารถทานได้โดยเฉพาะชาวมุสลิม เพราะได้รับรองมาตรฐานอาหารฮาลาลเรียบร้อย และนอกจากเมนูที่มีในร้านแล้วลูกค้ายังสามารถ Request ทั้งวัตถุดิบและเมนูสุดครีเอทจากเชฟได้ แต่มีเงื่อนไขคือต้องโทรมาจองล่วงหน้า 1-2 วันหรือโทรมาปรึกษากันก่อน

เชฟเอ๋ เพิ่มพูล เรืองวิลัย กำลังละเมียดละไมอยู่กับพิซซ่าจานโปรดของลูกค้า
พิซซ่าหน้าไทยแลนด์ จัดเต็มทั้งหอมหัวใหญ่ พริกยักษ์ สับปะรด กะทิและเนื้อไก่งวง 328 บาท / สปาเก็ตตี้ปลาเทราต์ย่างซอสมะขาม 288 บาท

บรรยากาศในร้านตกแต่งยุคสมัยใหม่ สะอาดสะอ้านโล่งสบายตา แอร์เย็นดีฟรีไวไฟ ที่จอดรถสะดวกสบาย
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
ท่านใดมีร้านอร่อยตามใจเชฟที่น่าสนใจ แนะนำเจ๋งเข้ามาได้ อย่าลืมแวะมา Comment มาแชร์ให้เจ๋งได้รู้

เจ๋งจะตามไปรีวิวอย่างทันท่วงที


Relate Posts :