กรณีศึกษาละเมิดลิขสิทธิ์รูปภาพและข้อมูลเว็บ reviewchiangmai.com

หลักก็คือไม่ว่ารูปภาพหรือข้อความใดๆ บนเว็บไซต์ของผู้อื่น เขาก็ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์

– ไปร้านหนังสือเปิดดูหนังสือเที่ยวเชียงใหม่อยู่เพลินๆ กวาดตาไปเจอรูปรถแดง เหลือง ขาว เขียว คุ้นตามาก เจ๊ยืนยันหนักแน่นว่ารูปของเราแน่นอนเพราะเธอไดคัทเองกับมือ เป็นรูปที่เราให้ช่างภาพไปถ่ายมาใช้ประกอบบทความเรื่องการเดินทางในเชียงใหม่

– โทรไปคุยกับสำนักพิมพ์ ขอสายบรรณาธิการ พูดคุยชี้แจงถึงที่มาที่ไปอย่างสุภาพ เธอ(บก.เป็นผู้หญิง)ขอเช็คข้อมูลดูก่อนพร้อมขอให้ส่งลิงค์รูปต้นฉบับให้ดูด้วย ตอนเย็นเธอโทรมาบอกว่า ฝ่ายเธอทำผิดจริง ที่ประชุมได้สรุปแล้วว่า

  1. จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับเรา
  2. ออกหนังสือแถลงขอโทษและยอมรับผิด
  3. ประกาศออกสื่อที่อยู่ในความรับผิดชอบของเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
  4. จะมาหาด้วยตนเองพร้อมนักเขียนเล่มดังกล่าว เพื่อขอโทษต่อหน้า (สำนักพิมพ์อยู่ กทม. ต้องมาที่เชียงใหม่)

– เรารู้สึกว่าโอเค ยอมรับผิด พยายามแก้ไขปัญหา ไม่เรื่องมาก จบแบบผู้ใหญ่ เราก็จบ

รูปรถสีๆคือรูปที่เขาก๊อปจากเว็บเราไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต



รูปเบียร์ที่โดนก๊อปโดยไม่ขออนุญาต ดูต้นฉบับได้ที่ https://reviewchiangmai.com/2288

– ทำงานกันอย่างรีบเร่ง น้องที่สนิทกัน(คนละออฟฟิศ) ส่งไลน์มาหาว่า รูปที่เจอในฟรีก๊อปปี้เล่มนึงที่เขาเอามาแจก มีรูปเบียร์คุ้นมากๆว่าอยู่ในเว็บเรา แล้วก็ส่งรูปมาให้ดู งานเข้าอีกแล้ว น่าดีใจที่เรามีแฟนพันธุ์แท้คอยเป็นหูเป็นตาให้อยู่ทั่วไปหมด

– ให้น้อง AE จัดการเรื่องนี้ให้ เธอดูจะเดือดแค้นพร้อมจะลุยได้ตลอดเวลา ติดต่อไปทางนั้นบอกว่า แล้วพี่จะให้หนูทำยังไง

– ผ่านมาอีกสองวัน บ.ออแกไนซ์ที่ก๊อปรูปนี้ไป ส่งเมลเป็นหนังสือขอโทษมาให้ พร้อมเหตุผลบลาๆๆๆๆ อ้างว่าทำเพื่อส่วนรวม ดีจังเลยเปิดบริษัทมาทำเพื่อส่วนรวม ถ้าจริงก็ขอสรรเสริญบูชา

– เมื่อเทียบสิ่งที่คนเชียงใหม่แสดงความรับผิดชอบกับคนกรุงเทพ พบว่าเจ้านึงสำนึกผิด ส่วนอีกเจ้าไม่เป็นอย่างงั้น


– หลายคนอยากให้ฟ้องให้เข็ด บ้างบอกว่าคนที่ทำก็วงการเดียวกัน(แล้วมาทำกันทำไม) บ้างก็ว่าจัดให้หนัก ออฟฟิศเราคุยกันว่า อยากให้จบ ก็เลยจบ พอแล้ว ขอทำงานแต่ มึงอย่าทำอีกนะ ทั้งคนอื่นๆด้วย ถ้าเจอคราวนี้ไม่พูดไม่แจ้งเตือนละนะ ทีเดียวหนักเลย สรุป เจ้านี้ก็เลยได้จบไปแบบฟลุ๊คๆ ถือว่าโชคดีไปนะ

หนังสือขอความอนุเคราะห์ที่ส่งมาหลังจากเอาไปใช้แล้ว???!!


– ดูไว้เป็นกรณีศึกษา ทั้งสองกรณี การกระทำเหมือนกันคือ ละเมิด ก๊อปปี้ไม่ขออนุญาต แต่การตอบสนองและความเป็นมืออาชีพต่างกันโดยสิ้นเชิง
– ไม่ได้บอกว่าใครทำถูก ทั้งสองคนนี้ผิดทั้งคู่ แต่ใครๆก็ทำผิดได้ ใครไม่เคยทำผิด สิ่งที่แยกคนว่าเป็นยังไงคือ การแก้ไขปัญหา การตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นต่างหาก
– ก่อนจบ ขอเตือนไปยังเว็บไซต์ทั้งหลายที่เป็นยอดนักก๊อป ว่าให้ ลบ ละ เลิก ซะตั้งแต่วันนี้ กฎหมายมันก็มีของมันอยู่แล้ว อย่าไปทำผิดกฎหมาย ทำเว็บแบบก๊อปๆเขามามันก็คงจะได้คนดูแต่มันไม่น่าภูมิใจหรอก โตขึ้นจะบอกลูกหลานว่ายังไง พ่อก๊อปจนได้ดี แบบนี้หรือครับ!

ตัวอย่างหน้าเว็บยอดนักก๊อปที่เอาข้อมูลเราไปเต็มๆ ไม่ได้ลืมหรือมองไม่เห็นนะจ๊ะ

ยอดนักก๊อปอีกราย เตรียมรับจดหมายรักได้เลย บอกก่อนเลยว่ามันซึ้งมาก อ่านแล้วแทบจะนอนไม่หลับ


ขอบคุณข้อมูลจากบล็อก www.itong2go.com
เกี่ยวกับ @itong2go: เฮียโก บล็อกเกอร์พ่อลูกสาม บ้านอยู่เชียงใหม่ อาชีพทำเว็บไซต์ ชอบดูหนัง ชอบท่องเที่ยว
Twitter: @itong2go
Facebook: Govit Thatarat
Instagram: @itong2go

Relate Posts :