สลีบันยันฟู้ดบาซาร์ “เลือก..ชั่ง..ปรุง” อร่อยได้ตามใจคุณ

Info : “สลีบันยันฟู้ดบาซาร์” ห้องอาหารสลีบันยัน โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่
โปรโมชั่นนี้ เปิดให้บริการทุกคืนตั้งแต่ 18.30 น. – 22.00 น.
โทร. 053-371-999
เฟซบุ๊ค www.facebook.com/SiripannaVillaResortSpaChiangmai
เวปไซต์  www.siripanna.com

หากจะกล่าวถึงบุฟเฟต์โรงแรมที่ดีที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่  ห้องอาหาร “สลีบันยัน” แห่งโรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่  คงติดอยู่ในทางเลือกลำดับต้นๆ ทั้งเรื่องของคุณภาพอาหาร การบริการ และความคุ้มค่า  ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา    ทั้งบิสสิเนสลั้นซ์ บุฟเฟต์อิ่มคุ้มราคาเบาๆ 189 บาท ที่ยากหาที่ใดมาเทียบได้   หรือจะเป็น ซันเดย์ลั้นซ์คุณภาพเกินราคา 599 บาท  ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

มาวันนี้ ศิริปันนา มีทางเลือกใหม่มาให้เราๆ ได้ลิ้มลอง ในรูปแบบของมื้อค่ำที่เราสามารถเลือกสรรค์เองได้ กับอาหารสดๆ ทั้งหมู ไก่เกรดเอ เนื้อวัวออสเตรเลีย แกะนิวซีแลนด์  อกเป็ด อาหารทะเล ฯลฯ  ซึ่งทางรีวิวเชียงใหม่ได้รับเกียรติเป็นรายแรกที่จะมานำเสนอรีวิวให้กับทุกท่านได้รู้จักโปรโมชั่นใหม่ของที่นี่  ในชื่อ “สลีบันยันฟู้ดบาซ่าร์”  ในคอนเซ็ปต์  “ออกแบบความอร่อยสำหรับมื้อค่ำด้วยตัวเราเอง”

วิธีการก็คือ  เราสามารถเลือกอาหารสดๆ ชนิดใด ประเภทใด จำนวนมากน้อยเพียงใดก็ได้  แล้วนำไปชั่งน้ำหนัก  หลังจากนั้นเราสามารถเลือกได้ว่า ของสดที่เราเลือกมานั้นจะนำมาทำอาหารประเภทใด   ไม่ว่าจะเป็นการทอด นึ่ง ผัด แกง  ต้ม  ปิ้งย่าง   แบบใดก็ได้  เชฟจะปรุงให้เราเสร็จสรรพพร้อมเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ      หากใครยังนึกภาพไม่ออก  ให้นึกถึงเวลาเราไปที่มุมอาหารสดตามห้างหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต  แล้วเราให้เขาปรุงอาหารให้เสร็จสรรพตามแบบที่เราต้องการ  นั่นคือวิธีการเดียวกัน   แต่ที่นี่ปรุงเสร็จเรานั่งรับประทานได้เลย  มีพนักงานคอยบริการเป็นอย่างดี นี่คือความแตกต่าง

พอเห็นแบบนี้แล้ว  หลายท่านอาจจะเกรง หรือกลัวว่าราคาจะแพง เอื้อมไม่ถึง    งานนี้เราฟันธงว่า “ไม่แพงเลย”  หากเทียบกับคุณภาพ ความสดของอาหาร บริการและสถานที่ระดับโรงแรมหรูแห่งนี้แล้ว   “จริงยิ่งกว่าจริง”    เพราะเขาคิดราคาเริ่มต้นที่กิโลกรัมละ 350 บาท  แต่เรา “จ่ายตามน้ำหนักจริง”  จะคีบจะหยิบอย่างละนิดละหน่อยก็ไม่ว่ากัน   อย่างเช่นกุ้งแม่น้ำกิโลละ 850 บาท  อยากกินสัก 2 ตัว  ชั่งแล้วหนักสัก 3-4 ขีด ก็คิดราคาแค่นั้น

ว่าแล้วเราก็ลงมือชิม ลงมือทดสอบกันเลย   งานนี้ทีมงานเด็กดอยของรีวิวเชียงใหม่  ตื่นตาตื่นใจกับอาหารทะเลเป็นอย่างมาก เหมือนกับว่าชาตินี้ไม่เคยกินมาก่อน  เลยเลือกมาแต่อาหารทะเลล้วนๆ   เมื่อเลือกเสร็จสรรพ ก็นำมาชั่งกิโลกันแบบเปิดเผย พร้อมตรวจสอบได้ ไม่โกงตาชั่งอย่างแน่นอน  จากนั้นก็แจ้งพนักงาน ว่าจะให้นำไปประกอบอาหารแบบไหนบ้าง หากไม่แน่ใจหรือนึกไม่ออกพนักงานและเชฟสามารถช่วยแนะนำให้เราได้


ระหว่างรอพนักงานนำอาหารไปให้เชฟปรุง  เราก็เดินมายังมุมสลัดผักสดเพื่อสุขภาพ  ซึ่งเขาคิดราคาเพียง 89 บาท ต่อ 1 ชาม (ใหญ่)  แบบที่ตักเต็มจานแล้วทานอิ่ม  จะทานคนเดียวหรือแบ่งกันทั้งโต๊ะก็ได้   ไม่ต้องมาคอยใช้เทคนิคแพรวพราวเหมือนสลัดในร้านพิซซ่าสมัยก่อน ที่ให้ชามใบน้อยมา ตักพูนชาม ล้นชามก็ไม่พอ ไม่คุ้ม    ซึ่งสลัดที่นี่ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทั้งผัก ผลไม้สดๆ  และมีน้ำสลัดให้เลือกถึง 9 ชนิด   เห็นอย่างนี้แล้วก็ไม่รอช้า ตักมาแบบพองาม 1 ชามพอดีๆ

ในช่วงระยะเวลาไม่นาน  อาหารที่เราเลือกไว้ ก็ถูกทยอยนำมาเสิร์ฟ  เริ่มด้วยอาหารทะเลเผา   พร้อมด้วยน้ำจิ้มสามรสแบบแซ่บ จัดจ้าน ถึงใจ   ไม่เชื่อดูภาพประกอบ

ตามมาติดๆ ด้วยปูม้านึ่งและหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวโตๆ อบสมุนไพรหอมกรุ่น


อีกหนึ่งจานที่ต้องยกนิ้วให้ ถึงความสดและอร่อย  นั่นคือ “ปลากะพงนึ่งมะนาว”   เนื้อปลานุ่ม แน่น  ไม่มีกลิ่นคาว กับพริกสด กระเทียมและมะนาวรสจัดจ้าน    ซึ่งจานนี้เขาคิดราคาปลาเป็นตัว  เพราะถ้าจะแบ่งนำไปชั่งก็คงกระไรอยู่   สนนราคาตัวละ 450 บาท  พร้อมปรุงพร้อมเสิร์ฟ ไม่มีชาร์จเพิ่มแต่อย่างใด

ส่วนชามนี้คือ “ต้มยำปลาหมึก”  ซึ่งครึ่งหนึ่งถูกนำไปเผาก่อนหน้านี้แล้ว   อีกครึ่งที่เหลือจับมาทำต้มยำน้ำใส ใส่เห็ดและผักต่างๆ มาอย่างครบเครื่อง  ทั้งเนื้อ ทั้งหนวดชิ้นเขื่องๆ  เคี้ยวเต็มคำ   ซดน้ำกันเกลี้ยงชามกันเลย

นั่งรับประทานกันไปคุยกันไป ใกล้จะอิ่ม    แต่ทางประชาสัมพันธ์สาวแสนดีที่ให้การต้อนรับทีมงานของเราบอกว่า  ไม่ควรที่จะพลาดเมนูนี้เป็นอย่างยิ่ง  “ปลาแซลมอนทอดน้ำปลา”   ที่นำแซลมอนสดๆ  ชิ้นโตๆ  ซึ่งเราลองชั่งได้ที่ 6 ขีด  ไปทอดกับน้ำปลา เสิร์ฟมาพร้อมกับยำมะม่วง ที่ยำมาอย่างถึงเครื่อง ครบรส ครบสูตร  รสชาติกลมกล่อม   ขนาดทีมงานหลายคน ยกธงขาว รวบช้อนส้อมไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังต้องเปลี่ยนใจกลับมากินใหม่   เพราะอร่อยจริงๆ

มื้อค่ำแบบนี้ช่างเป็นสุขเสียนี่กระไร  อาหารดี  ย่อมต้องมีดนตรีที่ไพเราะ   ที่นี่เขาจัดให้ในรูปแบบดนตรีสด บรรเลงเพลงสากลสบายๆ ขับกล่อมเราอย่างเพลิดเพลิน

มาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายท่านคงมีคำถามว่า  “แล้วที่กินไปทั้งหมดนี่ ต้องจ่ายเท่าไหร่”  เหมือนกับทีมงานของเราตอนที่กินอิ่มแล้วก็สงสัยเช่นกัน  (ทั้งที่กินฟรี)     เราเลยขอให้พนักงานนำใบรายการของทั้งหมดที่เราเลือก  มาให้เราดูเพื่อจะได้ทราบปริมาณ น้ำหนัก และราคาในแต่ละอย่าง    ปรากฎว่าของสดทั้งหมดที่เรารับประทานกันนี้ ชั่งตามน้ำหนัก  รวมราคาแล้วเพียง 2499 บาท   รวมสลัดไปอีก 1 ชาม เพียง 89 บาท  เครื่องดื่มอีกเล็กน้อย   สำหรับวันนี้ที่เรามีสมาชิกร่วมโต๊ะ เด็ก(กินจุ) 2 คน กับผู้ใหญ่อีก 5 คน   แต่อิ่มกันเต็มที่  กับอาหารทะเลล้วนๆ ในราคาไม่ถึง 3000 บาท

เห็นอย่างนี้แล้ว เราเชื่อว่าท่านคงตัดสินใจได้ไม่ยาก  ทั้งความอร่อยและความคุ้ม  สำหรับมื้อค่ำลักษณะแบบนี้ ที่  “เลือก…ชั่ง…ปรุง” อย่างที่เราพอใจ  เป็นมื้อค่ำในแบบที่ไม่ซ้ำซากจำเจ  ในบรรยากาศสบายๆ ที่ห้องอาหารสลีบันยันแห่งนี้   ย้ำกันอีกทีว่าเขาใช้ของดีและสดจริงๆ   จนทีมงานของเราบางคนบอกว่าต้องขอกลับมากินอีก    และเราเชื่อว่าหลายๆ ท่านคงมีปัญหาโลกแตกอยู่เป็นประจำว่า  “เย็นนี้จะกินอะไรกันดี”    อ่านรีวิวนี้แล้วเราขอตอบแทนเลยว่า “มาที่สลีบันยันฟู้ดบาซาร์แล้วคุณจะมีคำตอบ”

Relate Posts :