info. ถนนท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
สงกรานต์ไม่ว่าจะปีไหนๆ ก็เหมือนกันทุกปี
เรื่องอุบัติเหตุ, ทะเลาะวิวาท, เมาสุรา, อีสาววัยรุ่นดิ้นน้ำกระจายในสภาพเสื้อผ้าที่ทั้งบางทั้งสั้น, ข้อห้ามนู้นนี้นั้นเรื่องของการเล่นสงกรานต์จากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหลายๆเรื่องๆอีกเพียบ
เหตุการณ์คล้ายกันทุกปี แต่เปลี่ยนแค่สถานที่และเวลากันเท่านั้น
ปีนี้ผมไม่ได้กลับบ้านเกิดอีกเช่นเคย ซึ่งปกติก็ไม่ได้กลับช่วงนี้กันอยู่แล้ว เหตุผลไม่มีอะไรมากไปกว่าการขี้เกียจวุ่นวายแย่งกันเดินทาง ในสภาพคลื่นมหาชนพากันไปรวมตัวที่สถานีขนส่ง อีกทั้งอยากลองสัมผัสบรรยากาศสงกรานต์ที่เชียงใหม่กันซักครั้งว่าจะเป็นอย่างไร
“ต้องลองซักครั้งพี่” ไอ้เนมมันบอกผมแบบนั้น
วันแรกผมรวบรวมสมัครพรรคพวกชาวร็อคด้วยกันถึง 3 คนรวมทั้งผม (ดูมันเยอะมาก) ส่วนที่เหลือก็หายสาบสูญกันไปตามสายน้ำที่สาด และเครื่องดื่มที่ทำให้เสียการทรงตัวและหัวใจ
ก่อนออกไปเล่นน้ำ เจอข่าวคนจมน้ำตายในคูเมืองแถวประตูเชียงใหม่ ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่า ผมไม่ผ่านไปแถวนั้นแน่ ฮ่าๆๆ
นู้นเลยพิกัดความสนุกผม กาดสวนแก้ว มีคอนเสิร์ตจาก Benmore มาจัดกัน ของแบบนี้มันต้องมากันครบทั้งเรื่องดนตรี และการสาดน้ำ ส่วนสุราเมรัย เอาไว้ทีหลัง อิอิ
แต่ด้วยคลื่นมหาชนอันเยอะจัด พร้อมพื้นที่แคบชนิดมดเดินยังลำบาก งานนี้เลยเปลี่ยนแผนมาเดินเล่นรอบคูเมืองกันเอา
จุดสตาร์ทเริ่มจากกาดสวนแก้วนั้นแหละ โดยมีเส้นชัยอยู่ที่ประตูท่าแพ มีอุปกรณ์เป็นปืนฉีดน้ำกับถังใบ เอาไว้เล่น
ระหว่างทางก็เล่นน้ำกันไปตามเรื่องราวแหละ เจอใครก็สาดก็ซัดไปหมด แต่ก็ใจนึงก็พยายามระมัดระวังไม่ให้โดนสาดจากพวกน้ำเย็นๆ และน้ำในคูเมืองอันแสนจะขุ่นและสภาพไม่น่าไว้วางใจ
ก็ดูซิครับ น้ำขุ่นขนาดนั้น แถมไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่แอบลงไปฉี่หรืออึในน้ำกันกระจาย ฉะนั้นเรื่องความสะอาด กรูณาอย่าได้ถามถึง
ระหว่างทางก่อนถึงท่าแพ แวะไปหลบฝนในวัด จริงๆไม่หลบก็ไม่เป็นไหร่ เพราะไหนๆมันก็เปียกไปแล้ว แต่ในเมื่อเพื่อนมันหลบก็เลยต้องหลบตามมัน ก่อนจะออกมาจากวัดเลยได้น้ำแข็งถังนึงเอาไว้แช่สาดชาวบ้านเล่น
ด้วยความคับแค้นใจเพราะระหว่างทางโดนจัดหนักด้วยน้ำเย็นมามาก คราวนี้ก็ได้เวลาเอาคืนอย่างสาสม ด้วยกันเล่นน้ำเย็นคืนบ้าง โยที่มือผมหอบถังน้ำแข็งแบบเต็มพิกัด มีน้ำแช่ข้างในเพียงน้อยนิด เวลาจะสาดใครก็รินใส่แก้วพลาสติกเล็กๆ จากนั้น ก็ค่อยๆรินใส่ตัวคน
ใครเจอแบบนี้เข้า แถวบ้านผมเรียก “หนาวถึงกระดูก” ชนิดบาดลึกแบบช้าๆ แต่ว่านาน ฮ่าๆๆ
ผมถึงท่าแพตอนเกือบทุ่มพร้อมแวะหาอะไรกิน ก่อนจะสับตีนฝ่าถนนคนเดินลัดเลาะไปแถวกาดบุญอยู่หลัง ร.ร.ยุพราช เพื่อไปร่ำสุรากัน อิอิ
เป้าหมายเราอยู่ที่ร้าน Pentatonic Rock Bar กันเหมือนเช่นเคย ส่วนบรรยากาศในบาร์แทบไม่ต้องพูดถึงในวันมหาสงกรานต์ เพราะชาวร็อคมันส์กันกระจายไปกับเสียงเพลงในรูปแบบเมทัล
นาฬิกาบอกเวลาถึงตอนตีสองกว่า เราทั้งสามพากันหาอะไรกินดับความหิว ก่อนลงมติเป็นเอกฉันท์เป็นร้านโจ๊กสมเพชร
ระหว่างทานข้าวก็เรื่องดราม่าขึ้น เหตุเกิดจากเรื่องบางเรื่อง…
ว่าแล้วก็ขอเกริ่นก่อน เพื่อนสองคนผมเป็นแฟนกัน นั้นหมายฟามว่าทั้งวันที่ผ่านมาผมไปเป็นก้างขว้างคอเขา
เปล่าเลย ก็ผู้หญิงชวนผมเอง ไม่ได้อยากไปเป็นก้างใครซักหน่อย ประกอบกับเพื่อนที่มีก็พากันหายหัวหมด!
เรื่องมีอยู่ว่าทั้งสองจะทานข้าว แต่ติดปัญหาตรงที่เงินไม่แน่ใจว่าจะพอรึเปล่า ไอ้ผมก็มีติดกระเป๋าแค่ร้อยเดียว คือจริงๆก็เลี้ยงเพื่อนได้เพราะมันน่าจะพอกันอยู่แล้ว
แต่ฝ่ายหญิงเลือกที่จะไม่กิน พร้อมสละให้ฝ่ายชายทาน แต่ผมก็เว้าวอนหล่อนว่า เออนิ ทานด้วยกันก็ได้
สถานการณ์ทั้งสองเริ่มตึงเครียดจากเรื่องทานข้าวแบบไม่มีที่มาที่ไป ไม่รู้ว่าใครหน้าบูดใส่ใคร สุดท้ายเลยลากยาวไปกระทั่งถึงตอนเดินกลับไปเอารถที่กาดสวนแก้ว
ระยะทางจากโจ๊กสมเพชรถึงกาดสวนแก้ว ถือว่าไม่ใกล้ไม่ไกลมาก แต่มันก็มาลำบากตรงที่ฝ่ายหญิงต้องเดินเท้าเปล่าในสภาพที่เจ็บเท้า
ผมเฝ้ามองห่างๆ เดินตามไปด้วยกัน ฝ่ายชายถอดรองเท้าแตะบ้าง พลางจะให้ผู้หญิงใส่ แต่ทว่าหล่อนไม่ใส่ เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไร
สุดท้ายผม ไม่เห็นว่าตกลงหรือคุยอะไรกัน เห็นแต่ฝ่ายชายเดินสับตีนอย่างรวดเร็วแซงผู้หญิงไปไกลเกือบ 200 เมตร เหลือแต่ผมกับหล่อนเดินตามกันต้อยๆ
หล่อนบ่นบอกกับผมว่า หล่อนผิดอะไร กะอีแค่เจ็บเท้า แล้วเดินช้า เพราะว่าเดินได้แค่นี้ แต่ทำไมเขาไม่เข้าใจ
ผมตอบกลับด้วยท่าสงสัยว่า ทำไมเขาถึงเดินหนีไปก่อน แทนที่จะเดินไปพร้อมๆกัน
หล่อนบอกด้วยสีหน้าเซ็งๆว่า เขารีบเดินไปเอารถมารับ เพราะจะได้ไม่ต้องเดินไกล
ผมได้แต่นึกในใจ ว่าคิดบ้าอะไรเนี่ย เพราะถึงเดินรีบไปเอารถมารับผู้หญิง กว่าจะขับรถกลับมา ผมว่าแม่งเดินถึงพอดี
กลับกันถ้าคืนนั้น ผมไม่ได้ไปด้วย เขาจะตัดสินใจยังไง ปล่อยผู้หญิงเดินไปคนเดียว ดึกๆเปลี่ยวๆ หรือจะเดินไปพร้อมกัน หรือจะให้หล่อนนั่งรอที่ไหนซักที่แล้วรีบไปเอารถมารับ ก็มิอาจทราบได้
ว่าแล้วก็เอวังด้วยประการฉะนี้ กับเรื่องสงกรานต์ และความร้าวรานของหัวใจ ที่อาจจะยังมีตอนต่อไปหรือเปล่าก็ไม่รู้…
ปล.ภาพประกอบไม่ใช่คนนี้
ดู ถนนท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า