เมื่อปัญหาหมอกควันถล่มตัวเมืองเชียงใหม่

อะไรที่มันไม่ส่งผลกระทบกับชีวิตตัวเอง มนุษย์เรามักจะไม่สนใจ แต่ถ้าเรื่องไหนมันเกี่ยวข้อง ต่อให้เกิดเหตุที่ดาวอังคาร แถวๆบ้านก็จะตื่นตัวเต้นเป็นเจ้าเข้าทันทีถ้าคุณเห็นข่าวบ้านหลังหนึ่งไฟไหม้จังหวัดใกล้เคียงกับคุณ คุณจะรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันไหม้ข้างๆบ้านคุณ แบบนั้นต้องตื่นตัวกันหน่อย

ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ ข่าวอะไรที่มันส่งผลกระทบกับวงกว้างคนย่อมละมือจากการงานมาจดจ่อหน้าจอทีวี หรือเดินผ่านแผงหนังสือ เพื่อเช็คข่าวจากสื่อสิ่งพิมพ์ว่าช่วงนั้นมันเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองตัวเองล่าสุดเชียงใหม่เมืองในฝันอันมีอากาศบริสุทธ์ของใครหลายๆคน กำลังโดนมรสุมหมอกควันเป็นพิษเล่นงานถล่มจนงอม โดยเฉพาะในเขตตัวเมือง ที่โดนปกคลุมไปด้วยหมอกควันกันทั้งสิ้น

แรกๆที่มีข่าวคราวเรื่องนี้ผมก็อ่านมันแบบผ่านๆ ไม่ค่อยสนใจแต่พอหลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมามีภารกิจต้องออกจากเคหะสถานไปทำงานข้างนอก ผมถึงกับแทบผงะ เพราะเจอหมอกควันปกคลุมกันทั้งเมืองในช่วงกลางวันแสกๆ อารมณ์เหมือนหนัง The Book of Eliนี้ถ้ามันอยู่บนดอยความสูงกว่าน้ำทะเลซัก 2000 ฟุต จะไม่ว่าอะไรซักคำ แต่นี้มันในเมืองตอนกลางวัน แถมยังเป็นหน้าร้อนในเดือนมีนาอีก


ตารางแสดงค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของ PM10 และ AQI ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2556

ล่าสุดของเมื่อวานนี้กรมควบคุมมลพิษ รายงานค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ที่จุดตรวจวัดศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าได้ 169 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่จุดตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่าได้ 180 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งตามตัวเลขที่วัดออกมาอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนอย่างยิ่ง เนื่องจากเกินค่ามาตรฐานที่ทางการกำหนดไว้ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ค่ามลพิษจังหวัดภาคเหนือตอนบน เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2556

พอเกินอัตราตามที่วัดไปทัศนวิสัยในการมองเห็นก็แคบลง สภาพอากาศขมุกขมัวทั่วทุกพื้นที่ บางคนเกิดอาการแสบจมูก แสบตาเพราะหมอก ถึงขั้นขนาดต้องหาหน้ากากอนามัยมาปิดจมูกถามว่ามันเกิดนรกอะไรขึ้นกับสภาพอากาศเชียงใหม่?

สาเหตุของหมอกควันที่ปกคลุมในพื้นที่ ณ ตอนนี้ รองผู้ว่าเชียงใหม่ได้หล่นความเห็นไว้ว่า เกิดจากกระแสลมที่พัดหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา ประกอบกับความกดอากาศสูงที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดลมสงบ ทำให้หมอกควันไม่สามารถกระจายตัว ว่าแล้วก็เลยตลบอบอวลมันอยู่ในตัวเมืองแบบนี้แหละมีควัน แสดงว่าต้องมีไฟ แล้วถามหน่อยว่ามันมาจากที่ไหนกันฟะ ถึงได้พากันสนุกเผากันเหลือเกิน ไม่รู้เลยเหรอว่าไอ้พวกอยู่ในเมืองข้างล่างมันจะตายห่าอยู่แล้วไม่ต้องบอกก็รู้ ไฟป่าแน่ๆ จะเผาทำไร่เลื่อนลอย หรือเผาทำแมวน้ำอะไร ก็ไม่ควรจะไปทำมันทั้งสิ้น ซึ่งจากสถานการณ์ไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2556 พบการเกิดไฟป่าถึง 20 จุดใน 10 อำเภอ นำโด่งมาก่อนเช้าบ้านใครเป็น อำเภอจอมทอง 4 ครั้ง พื้นที่เสียหายรวม 218 ไร่


สำหรับสถิติแจ้งเหตุเผาสะสม ระหว่างวันที่ 18 กุมภาพันธ์ – 21 มีนาคม 2556 เกิดเหตุไฟป่าจำนวน 398 ครั้ง ในพื้นที่ 23 อำเภอ พื้นที่เสียหาย 4,629.5 ไร่ แยกเป็น พื้นที่ป่าอนุรักษ์เสียหาย 3,065 ไร่ พื้นที่ป่าสงวนเสียหาย 1,554.5 ไร่ และ พื้นที่ข้างทาง เสียหาย 10 ไร่ โดยอำเภอเชียงดาวมีสถิติการเผาป่ามากที่สุด จำนวน 64 ครั้ง รองลงมาคืออำเภอแม่ออน 58 ครั้ง ขณะที่แม่โจ้โพลล์เผยร้อยละกว่า 96.2 ปัญหาหมอกควันเชียงใหม่เกิดจากการขาดความรู้เรื่องกำจัดขยะอย่างถูกวิธี แต่ไม่ว่าจะเกิดจากการเผาอะไร ตอนนี้มันก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ไปแล้ว

ในเมื่อเล่นเผากันแบบนี้โดยไม่มีอะไรแก้ไขให้ดีขึ้น ทางการเลยต้องหามาตรการป้องกันเอาตัวรอดไปก่อนพลางๆ โดยให้ประชาชนทั่วไปควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากเจสัน เอ้ย หน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าปิดจมูก ปิดไฟ ใส่กลอน แล้วเข้ามุงนอนจับเมียแก้ผ้า ไอ้บ้า ไม่ใช่ต้องปิดประตู หน้าต่าง ต่างหากเล่า เพื่อกันฝุ่นควันเข้าบ้าน พร้อมติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากภาคราชการ และหากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์

วิธีใส่หน้ากากอนามัยโดยสาธารณสุขเชียงใหม่

ส่วนการป้องกันแล้ว ก็ยังต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วน เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับอากาศ โดยการรดน้ำต้นไม้และรดน้ำถนน เพื่อลดฝุ่นละออง ให้คุณภาพอากาศกลับมามีสภาพปกติและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว รวมถึง สุขภาพของพี่น้องประชาชน เกษตรกร ชาวไร่ชาวนาทุกคนไอ้ผมก็ได้แต่หวังว่า ถ้าคลี่คลายจากสถานการณ์นี้เสร็จ หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องไฟป่า คือคีย์แมนสำคัญในการยับยั้งหมอกควันเหล่านี้ เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดไฟได้ มันก็ไม่มีควัน ทุกอย่างจะทำอะไรก็จะง่ายขึ้นเป็นกอง ไม่ต้องมาลำบากรดน้ำ ใส่หน้ากากกันไม่เกลื่อนเมือง อันนั้นมันเป็นการแก้ไขปลายเหตุ

ผมเชื่ออยู่แล้วว่าทุกคนรู้วิธีแก้ แต่จะทำยังไงให้มันสำเร็จ อันนี้นอกจากคนที่ต้องรับผิดชอบหลักๆโดยหน้าที่การงานแล้ว คนธรรมดาอย่างเราก็มีส่วนช่วยด้วย จะทางตรงหรือทางอ้อมก็แล้วแต่จะสะดวกลงมือลงแรงกันจากนี้ไปแนวโน้มในอนาคตก็ต้องคอยดูว่าจะเป็นยังไงต่อ ไม่แน่สงกรานต์ปีนี้ เราอาจจะมีแฟชั่นดีๆ เป็นหน้ากากอนามัยใส่เล่นน้ำก็ได้นะครับ หุๆๆ

Relate Posts :