ข้อดีของการไปเที่ยวแบบไม่มีกล้องถ่ายรูป

อุปกรณ์สำคัญระดับพลาดไม่ได้เลยในการไปเที่ยว คือ กล้องถ่ายรูป ใช่มั้ยครับ ?

อุปกรณ์ที่ใช้บันทึกความทรงจำทุกรูปแบบไม่ว่าจะสนุก เฮฮา หัวเราะ  ร้องไห้ เศร้า เหงาแดก กล้องสามารถบันทึกได้หมด จะออกมากันแบบเวอร์ชั่นภาพนิ่งหรือวิดีโอก็แล้วแต่รสนิยมชมชอบของแต่ละคนกันไป

เรียกว่าถ้าพลาดลืมเอากล้อง หรือไปหลงลืมเอาไว้ที่ไหนก่อนไปเที่ยว ความรู้สึกเฮฮาก็แทบจะหายไปเกือบครึ่งหนึ่งกันทันที ประมาณว่าอุตสาห์มาเที่ยวทั้งทีแต่ไม่มีอะไรเป็นหลักฐานยืนยัน ว่าเรามาถึงแล้ว หรือกูมาถึงที่นี้แล้วนะพวกมึง

สบายหน่อยสำหรับใครที่มีสมาร์ทโฟนเจ๋งๆ (ซึ่งทุกวันนี้มันก็มีกันแทบทุกคนนั้นแหละ) ก็สามารถใช้กล้องโทรศัพท์ถ่ายเสร็จปุ๊บ แชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์คปั๊บทันที เป็นหลักฐานมาว่า กูมาถึงแว้วววววววว


บางคนเป็นเอามาก ชนิดที่ว่ามาเที่ยว เอาแต่ถ่ายรูปอย่างเดียวถ่ายอยู่นั้นแหละ เจออะไรก็ถ่ายมันยันดะไปหมด ถ่ายเสร็จก็แชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ค รายงานทุกความเคลื่อนไหว ทุกสถานการณ์ ชนิดเกาะติดไม่ให้คลาดสายตา จนบางครั้งนักข่าวภาคสนามมาเจอก็ยังอายแทน

การถ่ายรูปมากๆ ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ จริงๆ มันก็มีดีอยู่ตรงที่เมื่อเวลาผ่านไป เราสามารถหยิบรูปเหล่านี้ขึ้นมาดูแก้คิดถึงได้ จนบางครั้งก็สามารถเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเราได้เหมือนกัน

แต่ขณะเดียวกัน ใครเลยจะฉุกคิดล่ะว่า การไปเที่ยวที่มัวเอาแต่ถ่ายรูปมากๆ โดยไม่สนใจอะไร มันก็มีข้อเสียเหมือนกัน !

ข้อเสียที่ว่าคือ มันทำให้เราละเลยความสนใจจากสิ่งรอบตัวในสถานที่เที่ยวแห่งนั้น ทำให้ไม่รู้อย่างแน่ชัดว่าสิ่งรอบตัวนั้นมันคืออะไร มีที่มายังไง ลักษณะแบบไหน  เพราะเรามัวแต่ไปสนใจมองผ่านเลนส์กล้อง ทั้งที่จริง การมองผ่านด้วยตาเปล่า มันสมจริง สวยกว่า แถมได้ความรู้สึกที่ดีด้วย


แรกๆผมก็เหมือนคนทั่วไปแหละครับ ที่ชอบเก็บภาพอะไรไปเรื่อยเปื่อย  อันไหนสวยก็กดแชะ  พอไปๆมาๆ ถ่ายรูปมากๆ เข้า เวลากลับมาหลังจากเที่ยวเสร็จ ความรู้สึกผมมันบอกเลยว่า เหมือนเมื่อกี้ผมไม่ได้ไปเที่ยวว่ะ เหมือนผมไปถ่ายรูปเฉยๆแล้วก็กลับมา มันรู้สึกไม่ซึมซับ เข้าไม่ถึง

หลังจากนั้นมาเลยปรับเปลี่ยน ถ่ายรูปน้อยลง จนบางครั้งไม่ถ่ายเลยก็มี ถามว่าสถานที่ไปเที่ยวมันสวยมั้ย ก็สวย แต่อารมณ์มันไม่อยากถ่ายเฉยๆ อย่างนั่งเล่น  เดินเล่น มองด้วยตาเปล่า สัมผัสเอาจากร่างกายที่ให้ความรู้สึกที่ดี

ลองจินตนาการดู เราไปเที่ยวน้ำตก เราถ่ายภาพน้ำตกสวยๆไหลตกลงมาจากที่สูงกระทบก้อนหิน สาดกระเซ็น เป็นละอองน้ำ กับอีกแบบเราไม่ต้องถ่าย แค่เราถอดรองเท้าแล้วลงไปเล่นน้ำตก ความรู้สึกทั้งสองจะแตกต่างกันทันที

อนึ่ง นี้ไม่ใช่การบอกหรือบังคับไม่ให้คุณไม่ถ่ายรูปเวลาไปเที่ยว แต่ที่จะบอกให้ก็คือ บางครั้งการมองอะไรด้วยตาเปล่าและลงไปสัมผัสด้วยตัวเราเองจริงๆ มันดีกว่าการมองผ่านเลนส์กล้องถ่ายรูปเยอะกว่ากันเป็นไหนๆ

Relate Posts :